ศาลยกคำร้อง"คดีบิลลี่" หายตัวไป พาดพิงหน.อุทยานแก่งกระจาน

วันที่ 2 ก.ย. 58 ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้มีการอ่านคำสั่งของศาลฎีกาตามคำร้องของนางพิณนภา พฤษาพรรณ ภรรยาของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ชาวกะหร่าง บ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่กล่าวหาว่า ถูกนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (ในขณะนั้น) พร้อมด้วยพวกอีก 3 คน ควบคุมตัวไป โดยนางพิณนภา ได้ยื่นคำขอให้ศาลจ.เพชรบุรี ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้มีคำสั่งให้นายชัยวัฒน์ พร้อมพวก ปล่อยตัวนายพอละจีจากการควบคุมตัว ซึ่งศาลชั้นต้น และศาลอุธรณ์ได้มีคำสั่งยกคำร้อง

โดยศาลฏีกาได้พิเคราะห์แล้วสรุปได้ว่า การที่ผู้ร้องนำพยานขึ้นไต่สวนต่อศาลเป็นเพียงพยานบอกเล่าของนายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่ฟังมาจากพี่ชายของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ และนายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน เป็นพยานแวดล้อมเท่านั้น ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า มีการควบคุมตัวนายพอละจีจริง ศาลฏีกาจึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า ถูกหลายฝ่ายที่เสียผลประโยชน์กลั่นแกล้ง ในคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็เพื่อต้องการให้ย้ายตนออกจากพื้นที่ จากนี้ไปตนจะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ เพราะบางกลุ่มมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อป้ายสี
ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร ว่าที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนชุดใหม่ ซึ่งมาร่วมฟังคำสั่งของศาลฏีกา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่ศาลไม่ให้เรียกพยานเพิ่ม แต่ยังเชื่อว่า ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีอาญา และเชื่อมั่นว่า ดีเอสไอจะรับคำขอให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ