ในส่วนของสป.ศธ.พบว่าหลายเรื่องก็ตรงกับนโยบายเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่ต้องไปเร่งทำให้เร็วขึ้น ขณะที่บางเรื่องซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ต้องไปเน้นย้ำให้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการสร้างสำนึกความเป็นชาติไทยที่รมว.ศึกษาธิการเน้นอย่างมาก ทั้งในเรื่องการดูแลธงชาติไทย และหน้าที่พลเมือง ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องของการสร้างชาติให้อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคีและการน้อมรับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นหลักในการดำเนินการปฏิรูปการศึกษา เรื่องการพัฒนาครู หรือการจัดการศึกษา ให้นักเรียนเรียนอย่างมีความสุข โดยเรื่องหน้าที่พลเมือง สิทธิหน้าที่ได้ชี้แจงรมว.ศึกษาธิการไปแล้วว่าที่ผ่านมามีการนำเรื่องหน้าที่พลเมืองสอดแทรกในการเรียนการสอนทุกระดับแล้ว
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า จากนี้ไปการทำงานของ ศธ.คงต้องบูรณาการทุกองค์กรหลักให้ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องการใช้งบประมาณที่มีลักษณะคล้าย ๆ กันที่ต้องบูรณาการภายในกระทรวงก่อนส่วนจะเป็นกิจกรรมโครงการใดต้องหารืออีกครั้ง
ส่วนเรื่องการลดเวลาเรียนที่จะเปิดขึ้นในเดือนพ.ย.นี้ ปลัด ศธ.กล่าวว่า จะเริ่มนำร่องในระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)จำนวน 3,500 แห่ง ก่อนเพราะเป็นวัยที่ใกล้ชิดครูเป็นวัยเล่นและเรียนรู้ และที่ให้มีการเรียนการสอนถึงเวลา 14.00 น.นั้น เห็นตรงกันว่าให้ลดเวลาเรียนในห้องเรียนลงแล้วให้เด็กไปทำกิจกรรมนอกห้องเรียนเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ลดการจัดการเรียนการสอน
"เรื่องนี้คงต้องขอเวลาอีกเล็กน้อย แต่เท่าที่ได้มีการหารือกันในที่ประชุม ตกลงกันว่าไม่ใช่ให้เด็กกลับบ้าน อาจจะเป็นชมรมต่าง ๆ ก่อน หลังจากนั้นจึงจะมาสรุปเนื้อหาแนวทางที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง" รศ.นพ.กำจร กล่าว