svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ประมงพื้นบ้านฯจี้รัฐอย่ายอมธุรกิจประมงกดดันทำผิดกฎหมาย

03 กรกฎาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สงขลา-สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยรวมตัวออกแถลงการณ์ด่วนเรียกร้องรัฐบาลจัดการปัญหาธุรกิจประมงเชื่อทำลายล้างทรัพยากรวอนรัฐอย่าใจอ่อนผ่อนผันให้เรือประมงขนาดใหญ่ทำผิดกฎหมาย พร้อมผุดโครงการ "ปันน้ำใจจากชาวประมงพื้นบ้านสู่ผู้บริโภคแก้ปัญหาในภาวะสัตว์น้ำขาดตลาดแฉซ้ำธุรกิจประมงฮั้วแพปลาไม่ปล่อยสต๊อกสินค้าสัตว์น้ำป้อนตลาดทำผู้บริโภคเดือดร้อนหวังต่อรองรัฐช่วยทำผิดกฎหมาย


สงขลา-สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยรวมตัวออกแถลงการณ์ด่วนเรียกร้องรัฐบาลจัดการปัญหาธุรกิจประมงเชื่อทำลายล้างทรัพยากรวอนรัฐอย่าใจอ่อนผ่อนผันให้เรือประมงขนาดใหญ่ทำผิดกฎหมาย พร้อมผุดโครงการ "ปันน้ำใจจากชาวประมงพื้นบ้านสู่ผู้บริโภคแก้ปัญหาในภาวะสัตว์น้ำขาดตลาดแฉซ้ำธุรกิจประมงฮั้วแพปลาไม่ปล่อยสต๊อกสินค้าสัตว์น้ำป้อนตลาดทำผู้บริโภคเดือดร้อนหวังต่อรองรัฐช่วยทำผิดกฎหมาย เมื่อเวลา13.00น. วันนี้(3ก.ค.) ที่สำนักงานสมาคมรักษ์ทะเล หมู่บ้านเคหะครูไทย ถ.กาญจนวนิช อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านประมาณ 30 คน นำโดยนายสะมะแอ เจ๊ะมูดอ นายกสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยได้ประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหากรณีเรือประมงใหญ่หยุดทำการประมง พร้อมกันนี้ได้ออกแถลงการณ์เรื่องรัฐบาลจัดการปัญหาการประมงทำลายล้างจะต้องหมดไปจากประเทศไทยสินค้าสัตว์น้ำปลอดภัยจะเพิ่มขึ้น
นายสะมะแอ ได้อ่านแถลงการณ์เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า ชาวประมงพื้นบ้านจากทั่วประเทศ ได้รับความเดือดร้อนจากการประมงผิดกฎหมาย เราติดตามการแก้ไข ปัญหากรณีประเทศไทยโดนสหภาพยุโรปออกใบเตือนว่า อาจคว่ำบาตรสินค้าประมงไทย เพราะยังมีปัญหาการ ประมงผิดกฎหมาย ไม่มีการควบคุม และไม่มีรายงาน ทำให้พวกเราที่เป็นชาวประมงเล็กๆที่ถูกมาตรการของภาครัฐดูแลควบคุเหมือนกันก็เดอดร้อนไปด้วย เนื่องจากปัญหาส่วนหนึ่งเพราะประมงขนาดใหญ่มีการนำเครื่องมือประมงอวนลาก อวนรุน การปั่นไฟจับสัตว์น้ำวัยอ่อนในเวลากลางคืนเกิดขึ้นเพื่อป้อนโรงงานอาหารสัตว์ทำให้ทะเลไทยเกิดความเสื่อมโทรมลง ทำลายระบบนิเวศ และทำลายเครื่องมือชาวประมงอื่น ๆ
ที่สังคมไทยต้องทราบคือการประมงเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นการประมงแบบธุรกิจของ นักลงทุน พวกเขา ลงทุนใช้เครื่องมือชั้นเลว เพื่อหวังกอบโกยทำร้ายทรัพยากรทะเลและชาวประมงอื่นๆ มาโดยตลอด ดังนั้น ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีนโยบายในการควบคุมเครื่องมือประมงเหล่านี้ ไม่ให้เพิ่มขึ้นพวกเขาก็ใช้วิธีการลักลอบทำอย่าง ผิดกฎหมาย เมื่อถูกจับกุมมักวิ่งเต้นจ่ายค่าปรับ แล้วกลับมาทำผิดต่ออีก เมื่อปี 2515 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศห้ามทำการประมงอวนลาก อวนรุนในเขต 3 พันเมตรจากชายฝั่ง เพื่อป้องกันการขัดแย้ง กับชุมชน และทำลายทรัพยากรมากเกินไป อนุญาตให้ทำได้ในทะเลไทยนอก3พันเมตรออกไป ซึ่งกินพื้นที่กว่า 300,000เมตรหรือประมาณ300กิโลเมตร ในขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านเฝ้าระวังพื้นที่ แค่ 3กิโลเมตรเท่านั้น
แต่ปรากฎว่ากลุ่มทุนจำนวนมาก ยังคงบุกรุกเข้ามาหวงห้าม 3พันเมตร เรารับรู้ว่า กลุ่มนายทุนเหล่านี้ กำลังให้ข่าวอ้างว่า ชาวประมงพื้นบ้านที่มีจำนวนมากน่าจะเป็นฝ่ายที่ทำให้ เกิดการประมงเกินศักย์การผลิตของทะเล ซึ่งเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างหน้าด้านๆ เป็นการตอกย้ำว่ากลุ่ม นายทุนเหล่านี้ใช้วิธีสกปรกทุกทางเพื่อให้หลุดพ้นจากความผิด และจะได้กระทำการเอารัดเอาเปรียบชาวประมง เล็กๆต่อไป
ทั้งที่มีข้อมูลชัดเจนยืนยันได้ว่า ในการประมงทะเลไทยนั้น ชาวประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นคนในชุมชน ท้องถิ่น มีจำนวนมากถึงประมาณ85เปอร์เซนต์ของชาวประมงทั้งหมด แต่จับปลาในทะเลรวมกันได้23เปอร์เซ็นต์ โดยที่ทั้งหมดใช้ป้อนตลาดอาหารคน ในขณะที่ อีก 77เปอร์เซนต์ จับโดยนายทุนประมงพาณิชย์ที่ใช้ เครื่องมือขนาดใหญ่ และจับจำนวนมาก ทำแบบผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิชุมชนท้องถิ่น โดยที่เกือบทั้งหมด ใช้ป้อน โรงงานปลาป่นผลิตอาหารสัตว์ สร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น
ล่าสุดหลังรัฐบาลกำหนดจะใช้มาตรการตามกฎหมายเพื่อแก้ปัญหา IUU เมื่อจะถึงกำหนดบรรดาเรือ ประมงขนาดใหญ่ รวมทั้งเรืออวนลากจำนวนมากกลับเข้าฝั่งและเสนอว่า หากรัฐไม่ผ่อนผันการบังคับใช้กฎหมาย จะทำให้พวกเขาไม่สามารถออกทำการประมงได้และประเทศจะขาดสินค้าประมง ตามข่าวในสื่อต่างๆ แต่สิ่งที่ เรารับรู้ในหลายมาตรการมีการหมกเม็ดและให้การผ่อนผัน ทำประมงผิดประเภท, แรงงานผิดกฎหมาย ต่อไป ยกเว้นกรณีให้ติดเครื่องมือติดตาม (VMS) เท่านั้นที่กำหนดให้ต้องติดตั้งภายในวันที่ 3กรกฎาคม2558กลับปรากฏว่าบรรดาเรือประมงใหญ่เหล่านี้ยังเรียกร้องให้ผ่อนผันต่อไปเพื่ออะไร
เบื้องต้นขอเรียนว่า มีเครื่องมือประมงที่ดี ที่รับผิดชอบ ที่สามารถสร้างผลผลิตสัตว์น้ำให้ประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกังวลว่าประเทศไทยจะขาดอาหารทะเลบริโภค เพียงต้องยกเลิกการทำประมงที่ทำลายมากเกินไปเท่านั้น ถึงแม้ว่าทะเลไทยและชาวประมงพื้นบ้านเจ็บช้ำจากการกระทำของกลุ่มนายทุนอวนลาก อวนรุน และเรือปั่นไฟ มาเป็นเวลานาน ทั้งเครื่องมือประมงพื้นบ้านเสียหาย ถูกรุมทำร้ายเคยถูกชาวประมงอวนลากไล่ยิงกลางทะเลก็ตามจึงอยากเรียกร้องให้พวกเขา เปลี่ยนเครื่องมือประมงมาทำด้วยเครื่องมือถูกกฎหมายอื่นๆ ที่คนทั่วไปเขาทำกัน และหยุดทำร้ายเราเสียที
นายสะมะแอ บอกว่าว่า ประมงพื้นบ้านมีความเห็นว่า นายทุนประมง ได้รับการเอื้อเฟื้ออ่อนโอนผ่อนผันมาเป็นเวลากว่า 30ปี นานเกินไปที่จะพูดว่าควรให้โอกาสอีก รัฐบาลต้องดำเนินการให้ การทำประมงอวนลาก อวนรุน และการปั่นไฟ จับลูกปลา ต้องหมดไปจากทะเลไทย เราขอเรียกร้องให้ชาวประมงทั้งหลาย หันกลับมาทำประมงด้วยเครื่องมืออื่น ที่รับผิดชอบต่อทรัพยากร รับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมอาชีพเราเชื่อมั่นว่าหากสามารถเลิกการประมงทำลายเหล่านี้ได้ ประเทศไทยจะยิ่งมีอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพ มากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น ผู้บริโภคจะได้กินในราคาที่ถูกลง ปริมาณสัตว์น้ำเต็มวัยจะเพิ่มขึ้น และภายใต้มาตรการ อื่นๆประกอบกัน ประเทศไทยจะสามารถแก้ปัญหาการส่งออกไปสหภาพยุโรปได้ด้วย
พร้อมกันนี้ สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ขอประกาศเปิดโครงการชั่วคราวเพื่อให้ การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้บริโภคที่ประสบปัญหาสัตว์น้ำขาดแคลนและราคาแพง ภายใต้โครงการ ปันน้ำใจ จากชาวประมงพื้นบ้านสู่ผู้บริโภค ในภาวะสัตว์น้ำขาดตลาด เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงสัตว์น้ำที่สะอาดปลอดภัย ในราคาที่เป็นธรรม ต่อไป
ด้านนายบรจง นะแส สมาคมรักษ์ทะเลไทย กล่าวว่า ข้อกังวลที่บอกว่าเรือประมงขนาดใหญ่หยุดออกทำการประมงเนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย และไม่สามารถแก้ไขดำเนินการตามมาตรการของรัฐได้ จนมีกระแสข่าวว่าประชาชนผู้บริโภคจำนวนมาก ได้รับความเดือดร้อน เพราะสัตว์น้ำขาดตลาดและราคาแพงกว่าปกติในข้อเท็จจริงแล้วเล็งเห็นว่าชาวประมงพื้นบ้านมีกำลังความสามารถที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้บริโภคที่ต้องการสัตว์น้ำในการบริโภคได้ในระดับหนึ่ง ตลอดจนได้แบ่งเบาภาระของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จึงประสานงานเครือข่ายทั่วประเทศ ให้เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือผู้ บริโภคจากภาวะสัตว์น้ำขาดตลาด โดยให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าสัตว์น้ำตามฤดูกาล ไม่มีสารปนเปื้อน ในราคาเป็นธรรม ได้โดยตรงกับสมาคมฯ
โอกาสที่สัตว์น้ำขาดตลาดเป็นไปได้น้อยแต่ที่เป็นปัญหาเพราะการผูกขาดธุรกิจระหว่างแพปลาและผู้ประกอบการประมงที่อ้างว่าหยุดออกเรือไม่มีสสัตว์น้ำ แต่ข้อเท็จจริงผู้ประกอบการได้สต๊อกสินค้าโดยแช่แข็งไว้อย่างน้อย3-4เดือนแต่วันนี้กลับรวมกลุ่มกันไม่ยอมนำปลาออกมาขายทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนเพราะต้องการต่อรองรัฐบาลให้ผ่อนผันสิ่งที่ทำผิดกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงอยากให้รัฐบาลคิดและศึกษาให้ทันเล่ห์เหลี่ยมผู้ประกอบการและนายทุนประมงด้วย นายบรรจง กล่าว

logoline