ตร.ยังไม่ได้แจ้งข้อหาสาวอารมณ์ร้อนถูกขับรถจี้ตูด "ลงไปตบคู่อริ"

จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอผ่านเพจเฟซบุ๊ก " YouLike " ระบุข้อความ " เหตุเพราะ..ขับรถจี้ตูด เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ถนนพระราม 9 แยกผังเมืองก่อนถึงแยก อสมท. ความยาว 1.38 นาที โดยคลิปดังกล่าวเป็นภาพเหตุการณ์หญิงสาวคนหนึ่ง กำลังโวยวายด่าทอและตบตีหญิงสาวอีกคน ผ่านช่องกระจกฝั่งคนขับ ภายในรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีแดง จอดอยู่เลนกลางของถนนพระราม 9 ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.มักกะสัน ระงับเหตุ
จากนั้นผู้เสียหายได้เข้าพบ พ.ต.ท.บุญโชติ เลี้ยงบำรุง พงส.ผนพ.สน.มักกะสัน แจ้งความทำร้ายร่างกาย และทำให้เสียทรัพย์ พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 58 ที่สน.มักกะสัน น.ส.ทศพร เอี่ยมหร่าย อายุ 31 ปี และนายสุนทร เอี่ยมหร่าย อายุ 33 ปี สองสามีภรรยาผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิป และทำร้ายร่างกายผู้ขับขี่รถเก๋งโตโยต้ายาริสดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บุญโชติ เลี้ยงบำรุง พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ (พงส.ผนพ.) สน.มักกะสัน เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำในเบื้องต้น โดยทางพนักงานสอบสวนได้นัดผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีแดง มาเจรจากันด้วย
แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถตกลงกันได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.ทศพร กับนายสุนทร ไปทำประวัติ พร้อมทั้งตรวจปัสสาวะซึ่งผลปรากฏว่าเป็นสีม่วงทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่จึงทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งจะส่งไปตรวจที่ สถาบันนิติเวช รพ.ตร.อย่างละเอียดอีกครั้งว่า เป็นสีม่วงจากสารเสพติดหรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยทั้งสองคนกลับไป
พ.ต.ท.บุญโชติ กล่าวว่า ทาง น.ส.ทศพร กับนายสุนทร เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนที่จะออกหมายเรียก โดยเบื้องต้นทั้งคู่ยังไม่ได้ให้การอะไร แต่ในวันนี้ได้นัดให้ทางผู้เสียหายให้มาเจรจากันด้วย แต่ผลการเจรจายังไม่เป็นที่พอใจของทางฝั่งผู้เสียหาย
ทั้งนี้ ยังไม่ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์กับ น.ส.ทศพร เนื่องจากต้องรอผลการตรวจร่างกายผู้เสียหายจากทางแพทย์เสียก่อนว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ โดยในวันที่ 6 ก.ค. จะนัด น.ส.ทศพร มาทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์
ส่วนเรื่องปัสสาวะเป็นสีม่วงนั้น จากการสอบถาม น.ส.ทศพร กับนายสุนทรนั้น ทั้งคู่แจ้งว่ารับประทานยาแก้ไข้มา ทางเจ้าหน้าที่จึงเตรียมส่งไปให้สถาบันนิติเวช รพ.ตร.ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งว่า เป็นสีม่วงจากสารเสพติดหรือไม่ หากเป็นสีม่วงจากสารเสพติดก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป