รายงานข่าวจาก จ.สงขลา แจ้งว่า ตามที่เครือข่ายประมง 22 จังหวัดชายฝั่ง เห็นควรให้สมาชิกซึ่งเป็นเจ้าของกิจการเรือประมง นำเรือกลับเข้าฝั่ง ภายในวันที่ 30 มิ.ย. ก่อนที่รัฐจะประกาศใช้มาตรการ เพื่อเข้ามาจัดระเบียบกิจการประมงในส่วนต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ที่มุ่งเน้นเรื่องการทำประมง ที่สามารถตรวจสอบที่มาได้ ไม่ได้เป็นการทำประมง ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์
บรรยากาศที่บริเวณที่ท่าเทียบเรือประมงใหม่สงขลา ที่ใช้ขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำขึ้นท่า ไม่มีเรือนำสินค้าสัตว์น้ำมาขึ้นท่า เนื่องจากส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับเข้าฝั่ง และขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำขึ้นท่า ส่งให้แพปลาและผู้ค้าที่มาคอยรับซื้อสินค้าสัตว์น้ำอยู่ที่บริเวณท่าเทียบเรือ หลังจากขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำเสร็จแล้ว ตั้งแต่วานนี้ ( 29 ) ทำให้ ตามแพปลาต่างทั้งที่อยู่ในบริเวณท่าเทียบเรือและด้านนอกท่าเรือต่างก็ซบเซา
นายทวี บุญยิ่ง นายกสมาคมประมงจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า จากการที่เรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งทำประมงในเขตทะเลลึก ฝั่งอันดามัน ซึ่งมีจำนวนกว่า 300 ลำ ได้ทยอยเข้าฝั่งเกือบทั้งหมดแล้ว เป็นการปฏิบัติตาม แนวทางที่สมาคมประมงแห่งประเทศไทย กำหนดร่วมกันให้สมาชิกทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศ หยุดทำการประมงพร้อมกันในวันที่ 30 มิ.ย.
"ผลกระทบจากการหยุดทำประมงยอมรับว่า เกิดผลกระทบมากในส่วนของอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่ต้องหยุดกิจการตามไปด้วยแล้วในตอนนี้ อาทิ โรงน้ำแข็ง กิจการแพปลา โรงงานปลาป่น "นายทวี กล่าว
นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมประมงสมุทรสาคร กล่าวว่า ทางสมาคมฯได้ประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกสมาคมและเรือประมงทุกลำทราบว่าทางรัฐ จะมีมาตรการเข้มและจะออกตรวจจับเรือในวันที่ 1 ก.ค. หากพบว่าไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนด
" ชาวประมงไม่รวยทุกคน บางครั้งต้องกู้หนี้ยืมสินธนาคาร เรือออกไม่ได้ เงินหมุนเวียนไม่มีและจะเอาเงินที่ไหนผ่อนธนาคาร เรือขณะนี้ก็จอดหยุดอยู่ประมาณ80% ปัญหาที่ชาวประมงกดดันมากที่สุดคือเรื่องอาชญาบัตร ที่จะเป็นการอนุญาตให้ทำประมง ในขั้นตอนแล้ว ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากกรมประมงด้วย ที่จะต้องเข้ามาสนับสนุนในการจัดทำใบอนุญาต" นายกำจร กล่าว
นายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกสมาคมการประมงจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า เรือประมงขนาดใหญ่และขนาดกลางและเรือประมงพื้นบ้านในจ.ชลบุรี ทั้งสิ้น 2,000 ลำ มีผู้ประกอบการบางส่วนให้ความร่วมมือนำเอกสารพร้อมภาพถ่ายเรือ เข้าแจ้งผู้ครอบครองเรือ
ทั้งนี้มียอดรับแจ้งไว้ให้ตรวจสอบประวัติกว่า 1,000 ลำเศษ และอีกครึ่งหนึ่งที่ียังไม่ได้ดำเนินการ ทั้งนี้หากมีการเอาผิดจริงตามที่ระบุ 1 ก.ค.นี้ จะส่งผลให้มีเรือใช้การไม่ได้ และต้องหยุดทำประมงจำนวนมาก ผลกระทบก็จะเกิดขึ้นตามมา ทั้งระบบ จึงอยากให้รัฐได้ผ่อนผัน เพื่อให้ชาวประมงสามารถปรับตัวได้ทัน
ส่วนที่จ.สมุทรสงคราม การซื้อขายอาหารทะเลภายในตลาดสหกรณ์ประมงแม่กลอง จำกัด พบว่า มีสัตว์น้ำถูกนำเข้าสู่ตลาดมากว่าปกติ เป็นความต้องการที่จะระบายสัตว์น้ำเข้าสู่ตลาด หลังจากที่เรือประมงพากันเทียบท่า ขณะเดียวกันแม้สัตว์น้ำจะมีปริมาณมากขึ้นแต่ผู้ค้าต่างก็เร่งรับซื้อ เพื่อที่จะตุนเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะประเมินแล้วว่า จากนี้ไปจะเกิดภาวะขาดแคลนขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้ราคาสัตว์น้ำปรับตัวขึ้น เช่น ปลาเก๋าราคาปกติ กิโลกรัมละ 280 บาท ปรับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 400 บาท
ส่วนราคาสัตว์น้ำที่ที่ส่งเข้าโรงงานแปรรูป ยังเป็นไปตามปกติเนื่องจากช่วงนี้โรงงานยังไม่ได้ผลกระทบมากนัก เพราะมีวัตถุดิบสำรองนาน 2 เดือน แต่หากผ่านจากนี้ไปก็จะเกิดปัญหาขึ้่นอย่างแน่นอน