เปิดศึกแย่งน้ำ"มาบตาพุด" ร้องศูนย์ดำรงธรรม

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 เวลา 13.00 น. ชาวบ้านจาก 5 หมู่บ้านในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดจำนวน 100 คน จาก 5 ชุมชน (คลองน้ำหู- คลองน้ำเย็น- หนองบัวแดง หนองแตงเม- เกาะกก) มารวมตัวชุมนุมที่ศาลาคลองน้ำหู ตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง พร้อมร้องเรียนต่อ นายธัชพล เอี่ยมงาม ปลัดอำเภอเมืองระยอง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองระยอง ที่เดินทางมารับฟังปัญหา กรณีได้รับความเดือดร้อนจากที่ภาคอุตสาหกรรมดูดน้ำในคลองน้ำหู ที่ชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภคและการเกษตร โดยมีส่วนที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย ตัวแทนจากเทศบาลเมืองมาบตาพุด ตัวแทนชลประทานจังหวัดระยอง ตัวแทนจากนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด มาร่วมรับฟังปัญหาของประชาชนที่รวมตัวชุมนุมดังกล่าว
โดยทางฝ่ายชาวบ้าน ระบุว่า คลองน้ำหูเป็นคลองสาธารณะที่รับน้ำมาจากคลองทับมา ชาวบ้านใช้น้ำเพื่อการอุปโภคและการเกษตรมาตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันทางภาคอุตสาหกรรมได้ติดตั้งเครื่องดูดน้ำ จำนวน 8 ท่อ เอาไปใช้ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จนทำให้ระดับน้ำในคลองเริ่มน้อย ส่งผลให้น้ำเพื่อการเกษตรไม่พอใช้ บ่อขุดที่ชาวบ้านขุดไม่มีน้ำซึมเข้าจนทำให้เดือดร้อน เพราะไม่มีน้ำอุปโภคบริโภคและใช้เพื่อการเกษตร ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา เมื่อระดับน้ำในคลองเต็มตะลิ่ง ระดับน้ำในบ่อขุดของชาวบ้านจะมีระดับอยู่ที่ 4 เมตร แต่ทุกวันนี้น้ำในบ่อขุดแห้งไม่มีน้ำใช้เพราะระดับน้ำในคลองแห้งลง
จึงเรียกร้องขอคืนน้ำในคลองไม่ให้ทางภาคอุตสาหกรรมหยุดสูบน้ำไปใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมให้ตั้งตัวแทนของชาวบ้านในชุมชนทั้ง 5 เข้าไปตรวจสอบว่า ภาคอุตสาหกรรมนั้นสูบน้ำในคลองไปกักเก็บไว้ที่ไหน เพราะสูบน้ำไปแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก เพราะชาวบ้านทนมานานแล้ว ประกอบกับทุกวันนี้คลองน้ำหูกลายเป็นคลองที่ตันไปแล้วและไม่สามารถรับน้ำจากลุ่มน้ำคลองทับมา เนื่องจากความเจริญของบ้านเมืองทำให้มีการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร หากไม่รีบแก้ไขในอนาคตอันใกล้นี้ชาวบ้านจะไม่มีน้ำใช้ต้องรอแต่ฝนอย่างเดียว ชาวบ้่าน ระบุ
นายสมศักดิ์ ศรีจันทร์ นายช่างอาวุโส ชลประทานระยอง เปิดเผยว่า สำหรับการสูบในคลองน้ำหูเกิดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากลุ่มน้ำคลองทับมาที่จะไหลลงมาที่คลองน้ำหู โดยได้สร้างสถานีสูบน้ำที่คลองหนองโพรง เพื่อสูบน้ำส่วนที่เกินมาจากลุ่มน้ำคลองทับมาให้การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นำไปใช้ตั้งแต่ปี 2549 โดยมีข้อตกลงว่า จะดูดได้ก็ต่อเมื่อระดับน้ำที่หน้าประตูน้ำสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งในปัจจุบันทางการนิคมฯ เป็นคนดูแลสถานีสูบน้ำดังกล่าว
ทางด้าน นายธัชพล เอี่ยมงาม ปลัดอำเภอเมืองระยอง ได้รับเรื่องพร้อมสรุปว่า เบื้องต้นได้ขอให้ทางชาวบ้านรอก่อน และจะให้ทางนิคมอุตสาหกรรมนำปัญหาที่เกิดขึ้น เสนอผู้บริหารระดับสูง เพื่อสั่งการให้สถานีสูบน้ำดังกล่าวหยุดสูบน้ำ แล้วนำข้อตกลงที่ทำกันไว้มาตรวจสอบว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วร่วมกันตั้งคณะกรรมการจากทุกชุมชนเข้าร่วมทำข้อตกลงใหม่ว่าจะดำเนินการกันอย่างไร เพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งจากปัญหาที่เกิดขึ้น