ชี้ทัวร์-ท่องเที่ยว รุกถิ่นอาศัยแต้วแล้วท้องดำ

หลังจากมีความชัดเจนแล้วว่านกแต้วแล้วท้องดำ 1 ในสัตว์ป่าสงวนของไทยจำนวน 15 ชนิดอาจจะสูญพันธ์จากประเทศไทย โดยผู้อำนวยสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นางเตือนใจ นุชดำรงค์ บอกว่า กรณีนกแต้วแล้วท้องดำ ที่อาจจะสูญพันธุ์จากป่าธรรมชาติ ขณะนี้ทางนักวิจัยของกรมอุทยานฯ ยังตั้งความหวังว่าอาจจะพบเจอตัวนกชนิดนี้ เนื่องจากมีการแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านว่านกอาจจะขยายไปอยู่ในพื้นที่ส่วนยางพาราของชาวบ้านรอบๆเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม จังหวัดกระบี่ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีรายงานนกชนิดนี้อาศัยอยู่ในที่ราบลุ่มต่ำของเขานอ-จู้จี้ แต่เนื่องจากเป็นนกที่อาศัยทำรังไม่สูงจากต้นไม้ และชอบหากินในพื้นที่ราบจึงมีความเสี่ยงทีจะถูกรบกวนทั้งจากศัตรูในธรรมชาติ และการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้ เพราะพื้นที่นี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวและเล่นน้ำในจุดที่เรียกว่า สระมรกตปีละหลายแสนราย
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีการจัดทัวร์ของไกด์ท้องถิ่นนำเอาปฝรั่งเข้าไปตามถ่ายรูปนกแต้วแล้วท้องดำ ซึ่งก่อนหน้านี้ใกล้สระมรกต เคยมีรายงานพบนกแต้วแล้วท้องดำอาศัยอยู่ 2 คู่ แต่จากการสำรวจของกรมอุทยานแห่งชาติไม่พบเสียงร้องของนกมาแล้วถึง 2 ปี อย่างไรก็ตาม ยังจะส่งทีมวิจัยสัตว์ป่าลงไปตามหานกแต้วแล้วท้องดำต่อเนื่องไปอีกตลอดทั้งปีนี้ ก่อนที่จะพิจาณาประกาศว่านกแต้วแล้วท้องดำสูญพันธุ์จากป่าธรรมชาติของไทย
นางเตือนใจ บอกอีกว่า ส่วนความหวังที่จะฟื้นฟูประชากรนกแต้วแล้วท้องดำ ทางกรมอุทยานฯเตรียมจะเสนอในระดับนโยบาย ใช้เวทีการเจรจากับรัฐบาลพม่า ผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากในฝั่งพม่าอาจยังมีนกชนิดนี้อาศัยอยู่ แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก เพราะการที่จะขอพ่อแม่พันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ในระดับโลก ต้องอาศัยความร่วมมือทางวิชาการ หากไม่มีการยอมรับก็คงจะดำเนินการอะไรไมได้
นายสัตวแพทย์เกษตร สุเตชะ นักวิชาการจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่าขณะนี้กรมอุทยานเปิดพื้นที่สระมรกต ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบอันซีน เนื่องจากมีสระนำเขาหินปูนสีมรกตสร้างแรงดึงดูดทำให้มีการพาทัวร์จีนและต่างชาติ มาเที่ยวในพื้นที่มากกว่าวันละ 5000 รายหรือปีละหลายแสนราย ทำให้รบกวนถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าหายากโดยเฉพาะนกแต้วแล้วท้องดำ ที่เคยอาศัยในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ยังพบว่าต้นหม้อข้าวหม้อแกลิงที่เคยมีมากในเส้นทางเดินทางไปสระมรกตและจุดทองเที่ยวก็หายไปมาก เพราะเราไม่สามารถคลุมเรื่องของการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพได้ เรื่องนี้เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้หลายพื้นที่สูญเสียทรัพยากรสำคัญที่มีอยู่ไป