svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ตร.เร่งล่าแก๊งขโมยศพตายโหง ในป่าช้าบ้านโนนสา

17 เมษายน 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี นำกำลังเข้าตรวจสอบ พื้นที่ป่าช้าบ้านโนนสา หลังมีคนขโมยศพ ของผู้เสียชีวิตชายหญิง 2 ศพ ที่เสียชีวิตลักษณะ ตายโหง โดยพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้ตายเชื่อว่า จะมีการนำศพ ไปประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์




วันที่ 16 เม.ย.พ.ต.ท.จำลอง ปัญจะนะ สว.สส.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม พร้อมกำลังเข้าหน้าที่ตำรวจ นำเข้าตรวจสอบในพื้นที่ป่าช้าบ้านโนนสา พร้อมกับ นายวิเชียร บุญพา ผญบ. บ้านโนนสา นางบัวลี ชูเวียง อายุ 64 ปี อยู่ที่ 80 ม. 4 บ้านโนนสา ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม และ นางอนงค์ หีบแก้ว อายุ 65 ปี 32 หมู่ 12 บ้านโนนสา ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม แม่ของศพที่ถูกขโมยไปทั้ง 2 ศพ ซึ่งแม่ ญาติพี่น้อง และชาวบ้านโนนสา ร่วมไปตรวจสอบ



หลังมีข่าวว่า มีผู้เข้าไปขโมยศพ ของผู้เสียชีวิตชายหญิง ที่เรียกว่าเสียชีวิตลักษณะ ตายโหง ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้ตายเชื่อว่า จะมีการนำศพทั้งสอง ไปประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งทางพ่อแม่ญาติพี่น้องได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม ไปเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา และตำรวจกำลังเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้าย ขณะเดียวกันพบว่าเคยเกิดเหตุการณ์คนร้ายเข้าไปขโมยศพลักษณะนี้มาแล้วที่ป่าช้า ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี



ป่าช้าบ้านโนนสา อยู่ห่างจากตัวบ้านประมาณ 5 กม.สามารถขับรถยนต์ไปถึงปากทางเข้าป่าช้า โดยมีลานเอาไว้จัดพิธีงานศพ เมรุไว้เผาศพ และต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 400 เมตร จึงถึงป่าช้าของบ้านโนนสา พื้นที่กว่า 70 ไร่ ที่มีป่าเต็งรังขึ้นอยู่ล้อมรอบ ป่าช้าแห่งนี้ที่เป็นสถานที่ที่คนในหมู่บ้านโนนสา และหมู่บ้านใกล้เคียง จะนำศพของผู้เสียชีวิตมาเผาหรือฝัง มีการขุดหลุมฝังศพไว้จำนวนมาก รวมทั้งมีการใช้ท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 ซม.มาเรียงต่อทำเป็นเบ้าเก็บศพขุดฝังลงไปในดิน



จุดแรก นางบัวลี นำตรวจจุดที่ฝังศพของ น.ส.ศิริรัตน์ หรือกุ้ง อัคราช อายุ 26 ปี บุตรสาว เสียชีวิตขณะตั้งครรภ์อายุ 5 เดือน ที่เรียกกันว่า ตายทั้งกลม แพทย์ได้ผ่าเอาศพลูกจากครรภ์ ออกก่อนมาประกอบพิธีทางศาสนา โดยเก็บศพทั้งแม่และลูกไว้ในเบ้า ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2557 โดยคนร้ายได้ทุบเบ้าปูนทะลุที่บริเวณด้านศีรษะออก แล้วขโมยเอาศพเฉพาะส่วนศีรษะไป ส่วนศพของลูกที่วางไว้ข้างร่างของผู้ตาย คนร้ายไม่ได้นำไปด้วย



ส่วนศพที่ 2 นางอนงค์ นำตรวจจุดฝังศพของ นายนพรัตน์หรือ เอ หีบแก้ว อายุ 32 ปี บุตรชาย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกยิง ในงานงิ้วศาลเจ้าปู่-ย่า อ.กุมภวาปี โดยศพถูกนำใส่ในโลงไม้ แล้วพ่อแม่ญาติพี่น้องนำมาฝังในป่าช้า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2557 โดยคนร้ายได้มาลักลอบขุดหลุมศพของนายนพรัตน์ แล้วยกเอาศพที่อยู่ในโลงออกไป โดยสภาพของป่าช้า คนร้ายจะต้องยกศพออกมาใส่รถด้านนอก



นายวิเชียร บุญพา ผญบ.บ้านโนนสา นางบัวลี และ นางอนงค์ แม่ของผู้ตาย พร้อมกับชาวบ้าน ได้สาปแช่งผู้ที่เข้ามาก่อเหตุขโมยศพไปจากป่าช้า และขอให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายที่เข้ามาขโมยศพทั้ง 2 ให้ได้ พร้อมกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคบพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไหนพ่อแม่พี่น้องจะเสียใจ เพราะอยากทำบุญให้ลูกหลานก็ไม่ได้ทำ เขาต้องการที่จะได้ศพกลับคืนมา เพื่อจะได้ทำพิธีตามความเชื่อของคนอีสาน



นอกจากนี้ชาวบ้านยังกลัวว่า เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น มีการนำศพตายโหงออกจากป่าช้าที่ฝังเก็บไว้ โดยยังไม่มีการทำพิธีตามความเชื่อของคนอีสาน ที่ต้องเก็บศพที่ตายโหงไว้ 3 ปีเสียก่อน เพื่อให้ผู้ตายได้เย็นลง จึงจะนำมาเผา เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ก็กลัวว่าในหมู่บ้านจะเกิดเรื่องอาเพศขึ้น



พ.ต.ท.จำลอง ปัญจะนะ สว.สส.สภ.ประจักษ์ศิลปาคม เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้รับแจ้งเมื่อเย็นวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนางอนงค์ หีบแก้ว อายุ 65 ปี และนางบัวลี ชูเวียง อายุ 64 ปี ราษฎรบ้านโนนสา แม่ของศพทั้งสองที่ถูกคนร้ายขโมยศพไป



หลังจากที่ช่วงนั้นมีชาวบ้านเข้าไปที่ป่าช้า เพื่อทำความสะอาดหลุมศพของญาติพี่น้อง ตามประเพณีชาวอีสานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และได้กลิ่นเหม็นของศพจึงตามหา จนพบว่ามีการทุบทำลายเบ้าเก็บศพ และขุดเอาโลงศพขึ้นมา ก่อนหน้าที่ชาวบ้านจะพบราว 2-3 วัน



ขณะนี้ญาติของผู้ตายที่ถูกขโมยศพให้การกับทางพนักงานสอบสวนไม่มากนัก เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยทางพนักงานสอบสวนได้นัดให้แม่ของศพทั้ง 2 มาให้ปากคำเพิ่มเติม ในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) ซึ่งตนและชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ เพื่อสืบสวนหาเบาะแส และทราบว่า เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุคนร้ายมาขโมยเอาศพของเด็กชายหญิง 2 พี่น้อง อายุ 9 และ 8 ขวบ ที่เกิดอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิตพร้อมกัน พ่อแม่นำศพมาฝังไว้ที่ป่าช้าบ้านเชียงแหว ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี เชื่อว่าจะเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน และเหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดมาเมื่อกว่า 10 ปี ในเขต สภ.บ้านเทื่อม อ.บ้านผือ ที่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้



พ.ต.ท.จำลอง กล่าวว่า การสืบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนเศษ มีพระจากทาง จ.บุรีรัมย์ เดินทางมาธุดงค์ในพื้นที่แถบนี้ และปักกลดอยู่ในเขตบริเวณนี้ โดยพระรูปนี้ชอบอวดอ้างว่า ตัวเองเป็นจอมขมังเวทย์มีวิชาอาคม และสามารถทำหวยจากศพคนตายโหงได้ ซึ่งเป็นลักษณะให้ชาวบ้านที่เชื่อชี้บอกว่า มีศพตายโหงฝังอยู่ตรงจุดไหน จากนั้นจึงให้ผู้ร่วมขบวนการเข้ามาขโมยศพไป เพื่อเอาไปทำของขลังไสยศาสตร์ต่างๆ โดยตำรวจจะเร่งสืบสวนติดตามตัวมาสอบสวนติดตตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

logoline