svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ลุยสอบ "โบนันซา เขาใหญ่" พบสนามแข่งรถ-สนามกอล์ฟ สร้างในเขตป่านับ 100 ไร่

31 มีนาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โบนันซ่า - 31 มี.ค. 2558 - รองปลัดยธ.ลุยสอบโบนันซา เขาใหญ่ พบสนามแข่งรถ-สนามกอล์ฟสร้างในเขตป่านับ 100 ไร่ ดึงดีเอสไอสางปมผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังปิดตาจนท.รัฐ ปูดนักการเมืองกว้านซื้อที่ดินรอโครงการรถไฟความเร็วสูง ด้าน ลูกสาวไพวงศ์ หอบเอกสารแจง หากผิดจริงพร้อมรื้อถอน-ส่งคืนที่ดิน


พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานฝ่ายกฎหมายกองทัพภาคที่ 2 นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท) ได้สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าหน้าที่สำนักที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูงและป่าเขาอ่างหิน ในพื้นที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า บริษัทโบนันซา กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ จำกัด ของนายไพวงศ์ เตชะณรงค์ นักธุรกิจชื่อดัง ได้บุกรุกที่ดินทั้งในเขตป่าถาวร ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่สปก.จำนวน 6 จุด
โดยมีการสร้างสนามกอล์ฟและสนามแข่งรถ รวมทั้งสร้างสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื้อที่กว่า 151 ไร่ จำนวนนี้เป็นพื้นที่สปก. 72 ไร่ ,ป่าสงวนฯ 32 ไร่ และพื้นที่ที่มีการออกเอกสารสิทธิน.ส. 3 ก.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 47 ไร่ จากจำนวนพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทั้งหมด 1,588 ไร่พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า จากการตรวจแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมในปี 2517 ยังพบว่า การบุกรุกได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากส่วนที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องเพียง 6 แปลง และขยายพื้นที่บุกรุกเพิ่มเติม โดยเฉพาะการก่อสร้างสนามแข่งรถ ซึ่งมีการสร้างถมปิดพื้นที่สาธารณประโยชน์ โดยพื้นที่แข่งรถส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้าฯและแนวเขตป่าไม้ถาวร
หลังการลงพื้นที่ตรวจสอบในส่วนของการบุกรุกป่า จะขอให้กรมป่าไมัในฐานะผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีบุกรุกป่าสงวนฯโดยจะต้องมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ส่วนการออกเอกสารสิทธิหรือน.ส.3 ก.ในเขตป่าสงวนฯในพื้นที่บางส่วนของป่าไม้ถาวรเมื่อปี 2519 ทางป.ป.ท.จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิมิชอบจะทำการเพิกถอนเอกสารสิทธิทั้งหมดด้วย
หลังจากนี้ชุดปฎิบัติการจะทำการตรวจสอบที่ดินซึ่งจัดสรรให้กับนักการเมือง หมู่บ้านจัดสรร และสวนสัตว์ภายในโบนันซาด้วย เพราะปัญหาการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติของกลุ่มผู้มีอิทธิพลถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยพื้นที่โบนันซาเป็นจุดแรกที่กระทรวงยุติธรรมบูรณาการตรวจสอบร่วมกันกับทุกหน่วยงาน ก่อนจะขยายการตรวจสอบไปยังการบุกรุกแปลงอื่นๆในภาคอีสาน อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจสอบป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและจะส่งสำนวนให้ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบว่า การบุกรุกมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง จนทำให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไม่กล้าดำเนินการใดๆหรือไม่ รองปลัดยธ.กล่าว
ด้านพ.อ.สมหมาย กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าว ในปี 2506 เป็นพื้นป่าไม้ถาวรอยู่ในเขตอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ต่อมาในปี 2509 ได้มีการจำแนกพื้นที่เป็นป่าสงวนป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูงและป่าเขาอ่างหิน โดยสภาพพื้นที่ยังไม่มีการเพิกถอนสภาพ และเป็นป่าสงวนฯและป่าถาวร จนกระทั่งในปี 2519 กรมที่ดินได้ทำการเดินสำรวจเพิ่อออกน.ส. 3 จำนวนกว่า 1 พันไร่ และในปี 2532ได้ประกาศเป็นพื้นที่สปก.และมีการขยายเพิ่มเติมในปี 2536 โดยไม่เปิดให้เอกชนเข้ามาจับจองพื้นที่ป่าแต่อย่างใดแต่ระหว่างนั้นจนถึงปี 2549 ทางโบนันซา ได้เข้ามาดำเนินการและมีการขยายพื้นที่บุกรุกเพิ่มเติม โดยมีการก่อสร้างทั้งสนามกอล์ฟและสนามแข่งรถ
นอกจากนี้ ยังพบว่าพื้นที่บริเวณอยู่รอบข้างโบนันซา มีกลุ่มนายทุนและนอมินีนักการเมืองระดับชาติเข้าไปกว้านซื้อที่ดินเพื่อรองรับโครงการรถไฟความเร็วสูงตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่ผ่านมา
นายคเชนทร์ ใยสุ่น ปลัดอบต.ขนงพระ อ.ปากช่อง กล่าวว่า การก่อสร้างสนามแข่งรถของบริษัทโบันซาฯไม่ได้มีการขออนุญาต ในส่วนตัวอาคารทางอบต.จะขอเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านนายสิรภพ ดอนดี หัวหน้าสวนป่าปากช่อง กล่าวว่า เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เคยเข้ามาตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างสนามแข่งรถล้ำเข้าไปในแนวเขตของสวนป่าปากช่องกว่า 10 ไร่ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆอย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เมื่อพบความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯชัดเจนก็จะเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางบริษัทโบนันซ่าฯ อย่างไรก็ตาม นายสิรภพ ไม่ยอมชี้แจงเหตุผลว่าเหตุใดสวนป่าปากช่องจึงละเว้นการปฎิบัติหน้าที่กฎหมายททั้งที่พบความผิดชัดเจน
ทางด้านน.ส. พัธมน เตชะณรงค์ ลูกสาวนายไพวงศ์ เตชะณรงค์ เจ้าของสนามกอล์ฟโบนันซา ได้นำสำเนาเอกสารสิทธิ์น.ส. 3 ก.จำนวน 47 ไร่ และใบชำระภาษีบำรุงท้องที่มาชี้แจงมาแสดงกับเจ้าหน้าที่โดยอ้างว่าเอกสารต้นฉบับเก็บที่สำนักงานฯในกทม.โดยตนเข้ามาบริหารโบนันซาเป็นรุ่นที่ 3 จึงไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินมากนัก แต่มั่นใจว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หากผลการตรวจสอบพบว่า มีการบุกรุกป่าก็พร้อมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและคืนพื้นที่ให้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่นำหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศมาตรวจเปรียบเทียบและวัดพิกัดจีพเอส พบว่าบริเวณสนามแข่งรถและบ้านพักอยู่ในเขตป่า ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารที่น.ส.พัธมนนำมาแสดงขณะที่นายอารักษ์ เตชะณรงค์ น้องชายของนายไพวงศ์ กล่าวว่า ตนเป็นที่ปรึกษาของบริษัทโบนันซา ยืนยีนว่าการขยายพื้นที่เพิ่มเติมเป็นการซื้อที่ดินต่อมาจากชาวบ้าน จึงไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่บุกรุก หากผิดจริงก็พร้อมจะรื้อถอนและคืนที่ดินให้

logoline