ครม.มีมติให้เผาทำลายงาช้างของกลาง 5 ตัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรฯ ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีสัญจรที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอแก้มติคณะรัฐมนตรี ให้สามารถเผางาช้างของกลางที่สิ้นสุดคดีและอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมศุลกากร เป็นจำนวนมาก ขณะที่จากการสำรวจพบว่าบางส่วนก็เน่าเสียหายแล้ว

ทั้งนี้ การเผาทำลาย ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่คณะกรรมการบริหารอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดพันธ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือไซเตส ให้ประเทศที่มีงาช้างแอฟริกาผิดกฎหมายเป็นของกลาง สามารถเผาทำลาย หรือแนวทางที่สองการส่งกลับประเทศต้นทาง ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากทางประเทศแอฟริกา ซึ่งเราห่วงว่าถ้าส่งไปก็อาจจะกลับเข้ามาในวงจรลักลอบค้าได้อีก และแนวทางที่สาม การเก็บไว้เพื่อการศึกษา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาแล้วว่าจะใช้การเผาทำลาย เพื่อไม่ให้กลับเข้าสู่วงจรการซื้อขายในตลาดได้อีกจึงขอแก้มติคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
สำหรับการเผางาช้างของกลางล็อตแรก จากจำนวน 12 ตัน จะมีการตั้งคณะกรรมการเผางาช้าง มีพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เป็นประธาน พร้อมตัวแทนจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมศุลากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นๆ โดยพิจารณาเป็นล็อตๆไป นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่างาช้างบางส่วนที่อาจยังมีคุณค่า และมีประโยชน์กับคนรุ่นหลัง ก็จะให้เก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ด้วย
รายละเอียดงาช้างของกลางว่าเบื้องต้นมีประมาณ 5 ตัน เป็นของกรมอุทยานแห่งชาติฯ จำนวน 2 ตัน กรมศุลกากร 3 ตัน จากงาช้างที่มีทั้งหมด 12 ล้านตัน มูลค่า 600 ล้านบาท ซึ่งการเผานั้น จะต้องใช้เตาที่มีความร้อนสูง เพื่อไม่ให้เหลือชิ้นส่วนใดๆ