svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

โชเฟอร์รถตู้จี้ผู้โดยสารสาว หลังเหลือเพียงคนเดียว

30 มีนาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มีนาคม 2558 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรศรีราชา ได้รับแจ้งจากตำรวจ สภ.แหลมฉบังว่า มีเหตุโชเฟอร์รถตู้โดยสารก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ผู้โดยสารสาวก่อนปล่อยผู้โดยสารลง ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา พื้นที่ สภ.แหลมฉบัง แล้วหลบหนีมาทางถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าศรีราชา เขตพื้นที่สถานีตำรวจภูธรศรีราชา

เมื่อทราบเหตุ พ.ต.อ.ภพพล จักกะพาก ผกก.สภ.ศรีราชา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศิระกราน ต้นสงวน รองผกก.ป.จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์พร้อมชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบ พร้อมตั้งด่านสกัดจับบนถนนสุขุมวิทและตามซอยที่คาดว่า คนร้ายจะหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมรถยนต์ตู้โดยสาร ได้ที่บริเวณ สามแยกเซนหลุยส์ หมู่ 10 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา 
หลังจากนั้น จึงนำตัวมาสอบสวนห้องปฏิบัติการ สถานีตำรวจภูธรศรีราชา ทราบชื่อ คนร้ายต่อมาคือ นายวัชรา ภิรมย์ปั่น อายุ 25 ปี อยู่บ้าน ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา พร้อมรถยนต์ตู้โดยสาร หมายเลขทะเบียน 10-2946 ระยอง ป้ายเหลือง สายชลบุรี พัทยา สัตหีบ ระยอง เลขที่ 304-12 โดยข้างรถมีสติ๊กเกอร์ของ บริษัท สุขุมวิทเดินรถ จำกัด ติดอยู่ 
ต่อมา ทางด้านผู้เสียหาย ได้เดินทางมาชี้ตัวคนร้าย ทราบชื่อ ผู้เสียหายต่อมาคือ นางสาวนัชชา เผือกผ่อย อายุ 20 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ศรีราชา ให้การกับตำรวจว่า ได้ขึ้นรถตู้โดยสารคันดังกล่าว จากอำเภอสัตหีบ เพื่อมาเข้าห้องพักที่ได้เช่าไว้ในอำเภอศรีราชา แต่เนื่องจากรถโดยสารเต็มจึงมานั่งหน้าคู่กับคนขับ ขณะที่กำลังถึงจุดหมายที่จะลง โดยผู้โดยสารลงจากรถหมดแล้ว เหลือตนเองกับคนร้าย ซึ่งเป็นคนขับเพียง 2 คน และพอมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ใช้มีดปลอกผลไม้ จี้บังคับตนขู่ให้นั่งเฉยๆ จากนั้นเพียงไม่กี่นาที คนร้ายได้ปล่อยตนลงจากรถ พร้อมกับบอกขอโทษจำผิดคน 
หลังจากนั้น ก็ได้ขับรถมาตามถนนสุขุมวิท เข้าตัวเมืองศรีราชา ตนจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แหลมฉบัง ให้ช่วยสกัดจับ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ศรีราชา จับกุมตัวได้ดังกล่าว 
ซึ่งในขณะที่ นายวัชรา ภิรมย์ปั่น ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง อ้างสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากเกิดอาการเครียดอย่างหนัก เกี่ยวกับปัญหาในชีวิตในประจำวัน ก็เท่านั้น ไม่รู้จะคุยกับใคร จึงได้ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ 
แต่จากการตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเคยก่อเหตุแบบเดียวกันหลายครั้งแล้ว เนื่องจากท้ายรถมีร่องรอยการลบหมายเลขรถออก เพื่อกันไม่ให้ผู้เสียหายจำหมายเลขรถได้ แต่ครั้งนี้ อาจเกิดสำนึกผิด จึงปล่อยผู้เสียหายลงจากรถ ก่อนมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งจะต้องสอบสวนขยายผลและตรวจสอบตามสถานีตำรวจภูธรที่อยู่ใกล้เคียงว่า เคยมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความลักษณะนี้หรือไม่ เพื่อที่จะได้ให้ผู้เสียหายมาชี้ตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

logoline