ชี้อันตราย "ควบรวมสื่อ"

ในการสัมมนาเรื่อง "สิทธิของประชาชนและประโยชน์สาธารณะอยู่ไหนในยุคสื่อควบรวมและเหมาโหล" ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ มี วิทยากรนำการเสวนา ประกอบด้วยผศ.ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ,คุณสุวรรณา จิตประภัสสร์ ที่ปรึกษา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ,ผศ.พิจิตรา สึคาโมโต้ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการเสวนาโดย อ.มรรยาท อัครจันทโชติ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ อ.สุภาพร โพธิ์แก้ว หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผศ.ดร. ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กล่าวว่า ถ้าประมูลแล้ว ไม่ควบคุมการถือหุ้น ใครมือยาว สาวได้สาวเอา จะอันตราย กับสังคมมาก เพราะต่อไป บทบาททีวีดิจิทัลจะเข้าถึง ปชช.มากกว่า ทีวีดาวเทียม และถ้า ม. 31แห่งพรบ. ประกอบกิจการฯ คุมไม่ได้ ก็จะไม่มีอะไรมากั้นแล้ววจะเปิดโอกาสให้ทุนใหญ่ มาถือหุ้นมากขึ้นๆ มีอำนาจในการคุมกิจการสื่อได้ สั่งคุมนโยบายการนำเสนอข่าวได้ ผลเสียจะตกกับประชาชน ทีวีดิจิทัล บริษัทที่ถือหุ้นในช่องข่าวหนึ่ง มาถือหุ้นในบริษัทที่ได้ใบอนุญาตช่องข่าวอีกช่อง ถึงแม้ไม่ใช่บริษัทตรง แต่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน
"คดีนี้โดยตัวเองมันไม่ได้สำคัญ แต่ที่มันสำคัญมาก คือเป็นการเปิดช่องให้สื่อโดนควบคุมอยู่เบื้องหลัง ได้ง่าย โดยเทคนิคเขาไม่เข้ามาซื้อดื้อๆ แต่ทำแบบอื่นเช่น ไปตั้งบริษัทนายหมูนายแมวเข้าซื้อแทนก็ได้  สื่อจะควบรวมก็ได้ แต่ไม่ให้เกินโควต้า มีหลายสื่อได้แต่อย่าเกินกำหนด การถือเพื่อควบคุมถือแค่ 20% ก็คุมได้แล้ว ที่เหลือเป็นเบี้ยหัวแตก " ผส. ดร.ธวัชชัย กล่าวและว่า ที่ปรึกษากฎหมายชุดใหญ่ กสทช อ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานที่ปรึกษากฎหมาย กสทช เป็นคณะทำงานชุดเดียวกันกับตอนประมูล ซึ่งเห็นว่าขัด เมื่อเข้าบอร์ด เสียงขัดของผม เป็นเสียงส่วนน้อย ผลก็เป็นแบบนี้  ก็ไม่เป็นไร ถ้าสังคมรับได้ก็ไม่เป็นไร ทีวีก็ไม่ได้เสรีนัก ในต่างประเทศมีกฎหมายจำกัดถือหุ้นสื่อได้ไม่เกิน 25% ทุกประเทศระวังมาก  ธุรกิจอื่นปล่อยได้ถึง 40% บ้านเราก็ต้องระวังด้วย  
ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้บริโภค สุวรรณา จิตประภัสสร์ กล่าวว่า ขอตั้งคำถาม กสทช. ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ทำไมตัดสินว่าไม่ผิด ประชาชนต้องตั้งคำถาม แล้วเราไม่ยอมให้ใคร มาปิดประตู ถ้าเราไม่ทำอะไร หลังจากนี้ จะมีการรุกคืบการถือหุ้นมากขึ้นๆ ของทุนใหญ่ หรือทุนการเมือง และเราอาจได้ดูทีวี ไม่กี่ช่อง จาก 24 ช่อง อาจเหลือ 3 ช่อง ก็ได้ประชาชนจะถูกครอบงำความคิด
"ประชาชนอาจได้ข้อมูลด้านเดียว ถ้ายิ่งเป็นเรื่องการเมืองด้วยแล้ว สื่อสร้างวิกฤติได้ และสื่อก็ลดวิกฤติได้ สื่อจึงมีอิทธิพล ต่อความคิดประชาชน เรายืนหยัดข้างเนชั่น เราสนับสนุนให้เนชั่นฟ้องกสทช. เพราะประชาชนเสียหายจากกรณีนี้ ดังนั้น ประชาชนต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อสนับสนุนสื่ออาชีพ เราจะไปซื้อหุ้นเนชั่น เพื่อต้องการเห็นสื่อมืออาชีพอยู่ในสังคม
คุณสุวรรณา จิตประภัสสร์ กล่าวอีกว่า การปฏิรูปสื่อ ไม่ใช่แค่เรื่องของสื่อ เป็นเรื่องของประชาชน อยากขอให้ทุกท่านมาดูว่ากรณีเนชั่น เป็นสิ่งท้าทายสังคมมาก ท่านอย่าปลอยให้เรื่องนี้หายไปกับกลีบเมฆ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของประชาชน เพราะมันจะนำไปสู่ความล้มเหลวในการปฏิรูปสื่อ
 "กสทช. คือความหวังของประชาชน ต้องทำหน้าที่เพื่อพิทักษ์สิทธ์ประชาชน ทำตามเจตนารมณ์หลัก ป้องกันการครอบงำสื่อ เราเปิดประมูลทีวีดิจิทัล ไม่ใช่เพื่อให้ได้ทีวี 24 ช่อง แต่เราเปิดประมูลเพื่อเพิ่มให้สื่อมีความเสรี ไม่ถูกครอบงำ โดยกลุ่มทีวีจำกัด กลุ่มเล็กๆ ประชาชนได้อะไร ประชาชนไม่มีทางเลือก เพราะเรามีแต่สื่อเหมาโหล "   คุณสุวรรณา กล่าวและว่า ในร่างรธน.มาตรา48 ระบุชัด เจ้าของเดียวมีหลายๆ สื่อไม่ได้ แต่มันยังอยู่ในร่างรธน.ที่กำลังเดินสายรับฟังความเห็นที่ปรึกษาเครือข่ายผู้บริโภค  ยังกล่วว่า กรณีเนชั่น วันนี้ทำให้เราเห็นว่า มันเหมือนสงครามเกิดอยู่รอบตัวเรา สื่อถูกถล่มสงคราม เป็นสงครามทุนถล่มสื่อ ประชาชนกำลังจะโดนล็อกประตู อยากขอฝากถึงกสทช และฝากถึงสนช.  ถามว่า ประชาชนถามได้ไหม ทำไมตัดสินใจเรื่องนี้ โดยขัดเจตนารมณ์กฎหมาย เพราะอะไร...และทำไม 'ยังไม่ทันเข้าใกล้ความสำเร็จ ก็ทำท่าจะล้มเหลวเสียแล้ว' ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้บริโภค ระบุอีก
ด้าน ผศ.พิจิตรา สึคาโมโต้ อ. นิเทศน์ จุฬา บอกว่า สื่อมีอิทธิพล ต่อความคิด ต่อความเชื่อคน มันเกิดขึ้นจริง จากวิกฤติการเมืองที่ผ่านมา มันจึงต้องมีองค์กรในการกำกับดูแลอย่างกสทช. สิ่งที่ต้องกำกับดูแล คือ ช่องว่ามีมากพอให้เกิดกลไกตลาด การแข่งขันเสรี เป็นธรรม ต้องให้เกิดการแข่งขัน มีเจ้าของหลายเจ้า เนื้อหาต้องหลากหลาย ต้องกำกับให้เกิดการแข่งขัน เป้าหมายการกำกับดูแลสื่อ ก็เพื่อให้เป็น Marketplace of idea เพื่อให้เนื้อหาสื่อมีความหลากหลาย แม้การทำทีวีขาดทุน แต่ยังมีทุนการเมือง เข้ามาทำธุรกิจนี้ อันนี้น่าคิด อย่างทีวีดิจิทัล บอกขาดทุน แต่ทำไม มาเทคโอเวอร์กันอีก
 "การครอบงำสื่อ ให้มองเป็นภาพรวมดูเป็นเรื่องใหญ่ในหลายแพลตฟอร์ม ดูทุกช่องทางที่เขาถึงประชาชนด้วย ขอฝากกสทช.ให้ดูเรื่องคุณภาพช่องทีวีดิจิทัลด้วย ทุกวันนี้เทคโนโลยีมาแล้ว จำนวนมากทำได้แล้ว แต่มันไม่ได้มาพร้อมคุณภาพ อยากให้ดูด้วย" ผศ.พิจิตรา กล่าว
อ.สุภาพร โพธิ์แก้ว หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า วันนี้ประชาชน อยู่ในฐานะผู้เสียหายจากการตัดสินใจหลายๆเรื่องของกสทช. รวมทั้งการตัดสินใจของกสท. เมื่อวันที่ 23 มีนาคม เราประชาชนจึงมีสิทธิ์ไปร้องศาลปกครองในการตัดสินใจที่ผิดพลาดทำให้เราเสียหาย