กรรมการปฎิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธพระศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ดร.มโน เลาหวณิชบอกว่า กรณีฆราวาสและพระสงฆ์บางส่วนมองว่ามีคนบางกลุ่มรื้อฟื้นคดีพระธัมมชโยเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำและผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเพราะไม่ต้องการให้ขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชนั้น
ขอยืนยันว่าคณะกรรมการฯไม่มีความคิดดังกล่าวเลย และมีความเคารพต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์และคณะกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) และจะเชิญให้มส.เข้ามาร่วมในการปฏิรูปพระพุทธศาสนาโดยเร็วๆนี้คณะกรรมการฯจะไปกราบนมัสการสมเด็จมหารัชมังคลาจารย์และขอให้มส.พิจารณาคัดเลือกพระผู้ใหญ่ 3 รูปเป็นตัวแทนมส.มาเป็นคณะกรรมการฯ รวมทั้งจะมีผู้แทนสปช.เข้ามาเป็นกรรมการด้วย
ส่วนการทำงานในการปฏิรูปนั้นคณะกรรมการฯมีเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้นในการสร้างรูปแบบการปฏิรูปพระพุทธศาสนาโดยจะยึดถือพระธรรมวินัยเป็นหลักโดยให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนซึ่งเป็นพุทธบริษัทสี่เข้ามามีส่วนร่วมโดยจะเปิดเวทีประชาพิจารณ์ร่างรูปแบบด้วยและสรุปเสนอต่อสปช.
ดร.มโน กล่าวถึง พระธัมมชโยนั้นคณะกรรมการฯเห็นว่าพระธัมมชโยปาราชิกไปแล้วเพราะต้องยึดตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชซึ่งเป็นไปตามพระธรรมวินัยและมาตรา 8 ของกฎหมายคณะสงฆ์
แต่หากฝ่ายสงฆ์และฆราวาสยังมีข้อสงสัยในเรื่องนี้ ก็ควรรื้อฟื้นคดีเกี่ยวกับพระธัมมชโยทั้งทางโลกและทางธรรมซึ่งเป็นคดีเดิม 52 คดีและคดีใหม่ที่เกี่ยวข้องอีก 1 คดีคือ คดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครติดยูเนี่ยนคลองจั่นขึ้นมาพิจารณาให้ทุกคดีมีข้อยุติที่ชัดเจนในทางโลกและทางธรรม