พิมายร้อนจัดน้ำแห้ง หวั่นแล้งน้ำไม่พอใช้

เช้าวันนี้ (1พ.ย.57) เกษตรกรในพื้นที่บ้านท่าหลวง ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่ได้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ต่างพากันเดินออกสำรวจพื้นที่เพาะปลูกของตนเอง หลังจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ปริมาณน้ำฝนที่เคยตกลงมาในพื้นที่เพาะปลูกเริ่มแห้งขอด ส่งให้พื้นดินเริ่มมีรอยแตกแยกออกจากกัน อีกทั้งต้นข้าวที่กำลังเจริญเติบโตเริ่มขาดน้ำไปหล่อเลี้ยงลำต้น ทำให้เกษตรกรบางรายจำเป็นที่จะต้องนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเพื่อเตรียมสูบน้ำเข้าพื้นที่เพาะปลูกของตนเอง จากคลองส่งน้ำที่มีปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ (เขื่อนระบายน้ำพิมาย) ได้ทำการปิดประตูระบายน้ำทั้ง 2 บาน เนื่องจากเป็นไปตามแผนการจัดการน้ำของทางชลประทาน ที่จะต้องมีการควบคุมปริมาณการใช้น้ำให้มีเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคในช่วงหน้าแล้ง อีกทั้งเพื่อลดพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรังและราคาความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ
ส่วนสถานการณ์ปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำหลังทั้ง 5 แห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบว่า มีปริมาณน้ำกักเก็บเฉลี่ยอยู่ที่ 55 เปอร์เซ็นต์ โดยอ่างเก็บน้ำลำตะคองมีปริมาณน้ำ อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำ 167 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 53 % ของความจุที่ระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม. , อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ปริมาณน้ำ 47 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 43% ของความจุที่ระดับกักเก็บ 110 ล้าน ลบ.ม. , อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 163ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 59% ของความจุที่ระดับกักเก็บ 275 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 72 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 51% จากความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 56 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 57% จากความจุกักเก็บทั้งหมด 98 ล้าน ลบ.ม.