ตรวจสอบแหล่งโบราณคดี เขาพระอาตเฒ่า

คณะนักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพังงา ร่วมกับผู้แทนชุมชนบ้านหินร่ม หมู่ที่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ได้เดินทางไปตรวจสอบแหล่งโบราณคดีเขาพระอาตเฒ่า ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งท่าเรือบ้านหินร่ม ประมาณ 1 กิโลเมตร และเคยเป็นแหล่งอยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคโบราณ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ทะเลนานาชนิด
โดยคณะสำรวจได้พบซากหอยชนิดต่างๆ จำนวนมากที่ตายทับถมกันสูงกว่า 2 เมตร บางส่วนเริ่มย่อยสลายกายเป็นขี้เถ้า มีทั้งซากหอยแครง หอยแว่น หอยหลักควาย และหอยนางรม นอกจากนี้ยังพบซากกระดูกมนุษย์โบราณซึ่งมีอายุเก่าแก่ แตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ขณะที่กระดูกบางชิ้นเริ่มกลายเป็นหิน
นายภานุวัฒน์ เอื้อสามาลย์ นักโบราณคดีชำนาญการ บอกว่า กระดูกที่พบเป็นกระดูกมนุษย์ซึ่งเก่าแก่มาก ซึ่งคณะสำรวจได้เก็บตัวอย่างกระดูกไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งยังพบว่ากระดูกบางส่วนกองอยู่ใต้หินที่ใช้เวลาก่อตัวหลายร้อยปี จึงเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่ากระดูกมีอายุเก่าแก่กว่าหินที่มากองทับถม
ขณะที่ชิ้นส่วนกระดูกอีกจำนวนมากกองอยู่กระจัดกระจาย และแตกหัก สันนิษฐานว่าอาจถูกขุดคุ้ยขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์ในยุคหลัง จึงเชื่อว่าบริเวณเขาพระอาตเฒ่า จะเป็นแหล่งอยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคโบราณ เพราะในบริเวณใกล้เคียงยังพบภาพเขียนสีโบราณ ที่ลักษณะลายเส้นตลอดจนสีที่ใช้เขียนเป็นยางไม้ผสมกับเลือดสัตว์บางชนิด มีลักษณะและอายุใกล้เคียงกับภาพเขียนสี ที่พบที่เขาเขียนอ่าวพังงา และที่ถ้ำผีหัวโต จ.กระบี่ แต่ขนาดของภาพใหญ่กว่าที่เคยพบในแหล่งอื่นๆ
ด้านนายสายันห์ หัสนัย มัคคุเทศก์ท้องถิ่น บอกว่า จากคำบอกเล่าของปู่ย่าตายาย ยืนยันว่า บริเวณเขาพระอาตเฒ่านี้เคยมีมนุษย์อยู่อาศัยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ และมีนักแสวงโชคแอบขึ้นมาขุดค้นหาสมบัติและของมีค่าอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีลายแทงปริศนาระบุว่า เข้าสามศอก ออกสามวา ใครได้มากินไม่หมด ที่หลายคนตีความหมายว่า เป็นที่เขาพระอาตเฒ่าแห่งนี้
แต่ในระยะหลังผู้นำท้องถิ่นเริ่มหาทางป้องกันไม่ให้มีการเข้ามาบุกรุกขุดหาสมบัติอีก เนื่องจากเป็นการทำลายแหล่งโบราณคดีที่สำคัญของจังหวัดพังงา ทั้งยังเตรียมพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในอนาคตอีกด้วย