สสจ.เก็บเนื้อเยื่อชาวต่างชาติตรวจพิสูจน์ เสี่ยงระบาดเชื้ออีโบลา

" ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว มีการติดตามตรวจสอบเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงของเชื้อ อีโบล่า โดยเริ่มจากสนามบิน หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่มีอาการป่วยก็จะมีการจัดทำประวัติ และมีการส่งเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังเป็นระยะเวลา 21 วัน เพื่อให้มั่นใจว่า ไม่มีการติดเชื้อแน่นอน แต่กรณีของชายต่างชาติดังกล่าว ทราบว่าก่อนหน้านี้ เคยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลป่าตอง เนื่องจากมีอาการหน้ามืดจากโรคประจำตัว ดังนั้นจะต้องมีการตรวจพิสูจน์เพื่อให้เกิดความแน่ใจ" นายนิสิต กล่าว
ขณะที่นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวในเรื่องเดียวว่า นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย และมาถึงภูเก็ตเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ปกติผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เมื่อมาถึงสนามบินจะมีการตรวจคัดกรองอยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีรายงานว่าพบผู้ป่วยต้องสงสัยแต่อย่างใด แต่เพื่อความสบายใจและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทางสาธารณสุขจึงได้จัดทีมเข้าตรวจสอบที่ห้องพักของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง โดยมีการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไปทำการตรวจพิสูจน์ คาดว่าจะทราบผลในวันนี้ (25 ต.ค.57)ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า เหตุที่ต้องมีการเก็บเนื้อเยื่อของชายชาวต่างชาติดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัด เนื่องจากชายคนดังกล่าวเสียชีวิตปริศนา ประกอบกับเดินทางมาจากประเทศเสี่ยงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสอีโบล่า ซึ่งก่อนที่จะเสียชีวิตเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาเขาเคยมีอาการหน้ามืดและเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลป่าตองมาก่อน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นจึงต้องมีการพิสูจน์ยืนยันให้แน่ชัด ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า ทางแพทย์ได้ขอให้ผู้ที่เข้ายังห้องพักของชายคนดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้แจ้งประวัติกับทางเจ้าหน้า เพื่อให้ง่ายต่อการติดตาม และหากพบมีอาการไข้ผิดปกติก็ให้มาพบแพทย์ ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิและผู้สื่อข่าว