2 วัยรุ่นพาลูกช้าง เดินเร่ร่อนขายอ้อยให้ชาวบ้านซอยเขาตาโล เมืองพัทยา

โดยพฤติกรรมนั้นชายทั้ง 2 คนจะแบ่งหน้าที่กันคือ คนแรกจะเดินคุมช้างส่วนอีกคนจะคอยเดินไปหาประชาชนที่พักอาศัยอยู่ตามริมถนน ซึ่งมีทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านขายของขายอาหารและประชาชนที่ออกมาจับจ่ายซื้อกับข้าวเช้า และทำบุญตักบาตรพระที่เดินบิณฑบาตในช่วงเช้าตรู่ ทำทียกมือไหว้ร้องขอความเมตตาให้ซื้ออ้อยที่เตรียมใส่ถุงมาให้ช้างกินและคอยระวังไม่ให้หมาที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้กัดหรือทำร้ายช้างน้อย
ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่นั้น เมื่อเห็นช้างน้อยเดินเร่ร่อนขายอ้อยก็รู้สึกเมตาสงสารจึงซื้ออ้อยที่ชายวัยรุ่นเจ้าของช้างเตรียมมาขายในราคาถุงละ40 บาท ให้ช้างกินเพื่อเป็นการทำบุญ บางคนก็มองด้วยความสงสารแต่ก็ไม่สนับสนุนซื้ออ้อยให้ช้างกิน 
โดยชายวัยรุ่นทั้ง 2 คนก็พาช้างน้อยเดินเลาะไปตามถนนเพื่อเร่ขายอ้อยกับชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าจนตลอดทั้งซอย และสังเกตุว่า หลังจากชาวบ้านซื้ออ้อยเลี้ยงช้างให้ช้างกินแล้วชายวัยรุ่นที่คอยบังคับช้างอยู่นั้นก็จะสั่งให้ช้างน้อยส่งเสียงร้องและนำเท้าหน้า 2 ข้างแสดงท่ากราบขอบคุณ แต่ชายวัยรุ่นทั้ง 2 คนที่พาช้างน้อยมาเร่ร่อนขายอ้อยนั้น จะมีอาการระแวงกวาดสายตาช่วยกันมองไปตามพื้นที่โดยรอบพอสมควร คาดว่าอาจจะกลัวเจ้าหน้าที่มาพบเข้า 
ทั้งนี้ ก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าชายวัยรุ่นทั้ง 2 คนนี้เป็นคนต่างถิ่นหรือคนในพื้นที่ แต่น่าจะเป็นไปได้อย่างแน่นอนว่า มีเจตนานำช้างน้อยออกมาเร่ร่อนขายอ้อยให้กับชาวบ้านในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อหาเงินแบบช้างเลี้ยงคนและคนก็เลี้ยงช้าง
ซึ่งแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ฝ่ายเกี่ยวข้องในพื้นที่เมืองพัทยานั้น ถึงจะเข้มงวดในการป้องกันและจับกุมจับกุมดำเนินคดีไม่ให้ควาญช้างหรือเจ้าของช้างนำช้างที่ไม่มีเอกสารระบุรูปพรรณสัตว์ หรือหากนำช้างออกมาเร่ร่อนขายอ้อยขายกล้วยให้กับประชน เพราะเป็นการทำผิด ตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ ปี 2499 มาตรา 34 หากเคลื่อนย้ายช้างไปในท้องที่ต่างจังหวัด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์ประจำท้องที่ มีโทษปรับ 1 หมื่นบาท ปรับไม่เกิน 6 เดือน ก็ยังมีการนำช้างออกมาเร่ร่อนขายอ้อยอย่างที่เห็นในภาพดังกล่าว