นางปราณิน มุตตาหารัช เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมชี้แจงการร่วมลงนามในสัญญาจ้างให้บริการทางการแพทย์ ระหว่างสถานพยาบาลเอกชนกับ สปส.โดยในปี 2558 จะมีโรงพยาบาลในเครือข่าย สปส.ที่จะให้บริการทางการแพทย์ 240 แห่ง แบ่งเป็นภาคราชการจำนวน 156 แห่ง และภาคเอกชนจำนวน 84 แห่ง ซึ่งเมื่อรวมแล้ว สปส.จะมีเครือข่ายสถานพยาบาลที่จะให้บริการผู้ประกันตนกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องการทำสัญญา ซึ่ง สปส.ให้ความสำคัญกับเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการพิจารณาระหว่าง สปส. กับสถานพยาบาลเอกชน เช่น เอกสารต้องครบถ้วนสมบูรณ์ และลงนามก่อนการให้บริการทางการแพทย์ ยกเว้นในส่วนของรัฐที่ไม่ต้องทำสัญญา ขณะเดียวกัน จะมีการควบคุมคุณภาพการรักษาพยาบาลโดยมีการประเมินมาตรฐานการให้บริการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคมด้วย
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม บอกว่าว่า สปส.ได้กำหนดสิทธิประโยชน์ทางด้านการแพทย์ให้แก่ผู้ประกันตน และดำเนินการจัดหาสถานพยาบาลตามมาตรฐานที่ สปส.กำหนด โดยให้สถานพยาบาลมีหน้าที่ให้บริการแก่ผู้ประกันตน ส่วนค่าบริการทางการแพทย์ สปส.ได้พัฒนารูปแบบการเหมาจ่ายตามจำนวนผู้ประกันตนที่ขึ้นทะเบียนกับสถานพยาบาลในอัตรา 1,460 บาทต่อหัว และจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ สำหรับกรณีโรคที่มีความเสี่ยงในอัตรา 432 บาท
นอกจากนี้ จะจ่ายให้แก่สถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพในอัตรา 66 บาทต่อหัว รวมถึงจะจ่ายให้แก่โรคที่มีภาวะความเสี่ยงสูงอีกจำนวน 560 บาท ทั้งนี้ เมื่อรวมแล้ว สปส.จัดงบรองรับผู้ประกันตนเฉลี่ยรายละ 2,518 บาท