พ่อแม่ใจสลาย ขอความเป็นธรรม คลอดลูกเสียชีวิต

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ต.ค. 57 นางจารุวรรณี บำรุงนา วัย 33 ปี พร้อมด้วยนายอมรเดช จันทร์ชีลอง วัย 44 ปี สองสามีภรรยาหอบหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนและนายแพทย์สาธารณสุข จ.ชัยภูมิ หลังเกิดกรณีไปฝากครรภ์กับโรงพยาบาลชัยภูมิโดยตรง ซึ่งไม่มีเงินที่จะไปฝากครรภ์กับแพทย์ที่คลินิก และทางโรงพยาบาลนัดทำคลอดบุตรสาวคนที่สองเกิดเสียชีวิตอย่างไม่ควรจะเป็นตามเทคนิคมาตรฐานทางการแพทย์ และมีสิทธิทางการรักษาที่เท่าเทียมกัน มาตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งสองสามีภรรยาได้พยายามสอบถามขอความเป็นธรรม สาเหตุการเสียชีวิตของลูกจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลชัยภูมิ มาตลอดแต่ก็ได้รับเพียงคำตอบว่า เสียใจด้วยเท่านั้น
นางจารุวรรณ เปิดเผยว่า หลังมีการฝากครรภ์บุตรคนที่สองโดยตรงที่โรงพยาบาลชัยภูมิมาต่อเนื่องตลอด ที่ต่างจากคนแรกที่ไปฝากกับแพทย์ที่คลินิก จนล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ต.ค.57 ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลนัดคลอด ซึ่งถือว่าครบกำหนดครรภ์เข้าสัปดาห์ที่ 38 พอดี และบุตรในท้องก็มีน้ำหนักในครรภ์กว่า 4.1 กก. ซึ่งก็พยายามถามหมอที่โรงพยาบาลว่าครบกำหนดคลอดและลูกตัวใหญ่มากแล้ว ถ้าจะให้ผ่าออกก็พร้อม
แต่หมอโรงพยาบาลแจ้งว่า อยู่ได้อีก 2 สัปดาห์ก็น่าจะนัดมาคลอดได้อยู่ จึงเดินทางกลับบ้านและต่อมาได้เพียง 4 วันในวันที่ 17 ต.ค.57 เกิดเจ็บท้องหนักจึงให้แฟนรีบพาไปคลอด ซึ่งทางหมอเวรโรงพยาบาลชัยภูมิ ก็รีบนำเข้าห้องผ่าตัดทันที และต่อมาบุตรก็เสียชีวิตช่วยไม่ทันเสียแล้ว โดยแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิระบุว่า เด็กขาดออกซิเจนอย่างรุนแรงขณะแรกเกิด
เรื่องนี้อยากให้กรณีตนเองเป็นกรณีศึกษา ในด้านมาตรฐานการรักษาพยาบาลหรือการทำคลอด ของโรงพยาบาล หรือคนที่ไม่ได้ไปฝากครรภ์กับแพทย์ที่คลินิกที่จะช่วยดูแลพิเศษมากกว่า กับการไปฝากที่โรงพยาบาลโดยตรง มาตรฐานการดูแลจะต่างกันขนาดนี้ ทั้งที่ครบกำหนดคลอดจะมีมาตรฐานการรักษาอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาที่ช่วยดูแลแม่และเด็กคนไข้ที่ใส่ใจมากกว่านี้ และจะเป็นการช่วยป้องกันการคลอดบุตรเสียชีวิตได้ดีกว่านี้ ก็เกิดความเสียหายจนช่วยไม่ทันแล้ว ถึงจะเร่งผ่าคลอดออกมาก็ไม่ทันเสียแล้วอย่างนี้อีก ถ้าโรงพยาบาลมีมาตรฐานใส่ใจดูแลแม่และเด็กที่ดีมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ว่ามาฝากโรงพยาบาลเป็นคนที่ไม่มีเงินการดูแลก็จะต่างกันมากกับคนที่มีเงินไปฝากกับคลินิกโดยตรงอย่างนี้อีก
ด้าน นายแพทย์สมควร หาญพัฒนชัยกูร สสจ.ชัยภูมิ หลังรับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมครั้งนี้ด้วยตนเองที่สำนักงาน สสจ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงและให้โรงพยาบาลชัยภูมิชี้แจงรายละเอียดมาให้ทราบโดยด่วนต่อไป ซึ่งในกรณีนี้ที่มีการคลอดบุตรเสียชีวิตและอาจจะเกิดจากข้อผิดพลาดทางการรักษาทางการแพทย์ของโรงพยาบาลชัยภูมิ ที่มีผลกระทบเกี่ยวกับการรักษา ทางสาธารณสุขก็มีมาตรการที่จะเข้ามาช่วยเยี่ยวยาผู้เสียหายครั้งนี้เพิ่มเติมด้วย อีกทางตามมาตรา 41 จะเสนอขออนุมัติเงินช่วยเหลือครอบครัวรายนี้ได้บ้างบางส่วน
ทั้งนี้อยากให้เข้าใจการทำงานของทุกฝ่ายและไม่มีใครอยากทำให้เด็กเสียชีวิตแน่ แต่บางครั้งอาจจะมีข้อผิดพลาดกันได้ ซึ่งก็จะได้รับฟังปัญหาเพื่อช่วยกันเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแพทย์พยาบาลให้มากขึ้นต่อไป ตัวเลขความเสียหายจากการเสียชีวิตจากการทำคลอดจากการรักษาของแพทย์ในปัจจุบัน ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่ต่างประเทศมองเราอยู่เช่นกันว่ายังมีสูง ทุกคนจะต้องช่วยกันลดความสูญเสียเหล่านี้ให้น้อยลงที่สุดลงให้ได้ ตามมาตรฐานสากลทั่วโลกให้ได้เท่าที่ควรจะเป็นต่อไป