กทม.ลุยจัดระเบียบทางเท้า หน้า"วัดหัวลำโพง"

นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจการจัดระเบียบผู้ค้าบริเวณหน้าวัดหัวลำโพง เขตบางรัก พร้อมพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. พล.ต.อ.อดุลย์ ณรงศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร ว่า ที่ผ่านมากทม.ได้ประชุมชี้แจงและขอความร่วมมือในการจัดระเบียบร่วมกับผู้ค้าบริเวณหน้าวัดหัวลำโพงโดยอนุญาตให้ผู้ค้า ขายสินค้าในช่วงกลางวันได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้เท่านั้น จากนั้นจะต้องตั้งวางขายสินค้าในช่วงกลางคืนเพียงช่วงเวลาเดียว ตั้งแต่ 19.00-05.00 น. เพื่อจัดระเบียบทางเท้าบริเวณหน้าวัดหัวลำโพง ซึ่งบริเวณนี้มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และมีการจราจรที่หนาแน่น ซึ่งการจัดระเบียบก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าทั้ง 60 รายเป็นอย่างดี 

ทั้งนี้กทม.จะจัดระเบียบผู้ค้าในจุดผ่อนผันในเขตกรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนทางเท้าให้ประชาชน ในการสัญจรด้วยความสะดวก ปลอดภัย และให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยจะดำเนินการใน 2 ส่วน ได้แก่ 1.จุดผ่อนผันตามประกาศกรุงเทพมหานคร ซึ่งอนุญาตให้ทำการค้าบนทางเท้า เมื่อปี 2555-2556 และสิ้นสุดเวลาการให้อนุญาตในปี 2557-58 รวมจำนวนทั้งสิ้น 63 จุด โดยจะให้ยกเลิกทำการค้าทันที 59 จุด เนื่องจากสิ้นสุดกำหนดเวลาการให้อนุญาตแล้ว ส่วนอีก 4 จุดที่เหลือ จะสิ้นสุดกำหนดเวลาในเดือน ม.ค.2558 และ2.ในส่วนของจุดผ่อนผันตามประกาศกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2548 จำนวน 667 จุด ซึ่งยังไม่มีกำหนดระยะเวลาในการยกเลิกทำการค้านั้น แต่จะดำเนินการทยอยยกเลิกจุดผ่อนผันต่อไป
พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการประชุมผู้ค้าย่านวัดหัวลำโพงโดยได้แจ้งพ่อค้า แม่ค้าถึงการตั้งแผงค้าในบริเวณจุดดังกล่าวซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงได้ดำเนินการเจราจากับผู้ค้าบริเวณหน้าวัดหัวลำโพงก่อนที่จะมีการดำเนินการจัดระเบียบทางเท้าตามนโยบายคืนพื้นผิวถนนและจัดการระบบหาบเร่ แผงลอยให้เกิดความเรียบร้อยทั่วกรุงเทพฯ ทั้งนี้จากการสำรวจทั่วกทม.พบว่ามีหาบเร่แผงอยู่ทั้งหมด 719 จุด ซึ่งจะดำเนินยกเลิกทันที โดยการค้าขายแผงลอยทั้งหมดต้องเข้าไปอยู่ภายในตลาดหรือในพื้นที่ที่ไม่กระทบต่อประชาชนส่วนร่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดระเบียบพื้นที่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่เทศกิจได้ยดแผงค้าที่ฝ่าฝืนระเบียบในการขาย อาทิ แผงขายล็อตเตอรี่ แผงขายต้นไม้ แผงขายลูกชิ้นทอด ทำให้ผู้ค้าบางรายถึงกับร้องไห้ เพื่อร้องขอความเห็นใจในการค้าขายในพื้นที่ โดยมีบางส่วนได้ขึ้นป้ายข้อความว่า "สงสารพวกเราและครอบครัวด้วยครับ"โดยมีแม่ค้ารายหนึ่งได้แจ้งกับสื่อมวลชนว่า ได้เสียส่วยให้เทศกิจเป็นจำนวนเงิน 600 บาทไปแล้ว แต่ทำไมถึงได้รับการกระทำแบบนี้อีก 
จากนั้นพล.ต.ต.วิชัย ระบุถึงกรณีเจ้าหน้าที่เทศกิจรับส่วยจากพ่อค้าแม่ค้าว่า ตนก็ได้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว แต่ตอนนี้ยังดำเนินการกับเจ้าหน้าที่เทศกิจไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐาน แต่ถ้าภายหลังมีการจัดระเบียบแล้วถ้ายังมีการรับเงินกันอีกจะให้ออกจากราชการทันที