สำหรับกิจกรรมของงานในช่วง 9 วัน 9 คืน นอกจากพิธีกรรมของแต่ละศาลเจ้าที่ถือปฏิบัติกันมา อาทิ พิธีโข้กุ้น (พิธีเลี้ยงอาหารทหารที่รักษาอ๊าม) พิธีป้ายฉิดแซ (พิธีบูชาดาว) พิธีอิ้วเก้ง (พิธีแห่พระรอบเมืองภูเก็ต) พิธีอาบน้ำมัน พิธีขึ้นบันไดมีด พิธีขึ้นบันไดมีด พิธีโก้ยโห้ย (พิธีลุยไฟ) พิธีโก้ยห่าน (พิธีสะเดาะเคราะห์) เป็นต้น และการจำหน่ายอาหารเจบริเวณอ๊ามต่างๆ และถือศีลกินผักของชาวภูเก็ตแล้ว ยังมีขบวนแห่ผัก ผลไม้ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสปีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษา ซึ่งขบวนจะเริ่มที่บริเวณสนามชัย หน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ไปยังบริเวณเวทีกลางสะพานหิน เพื่อประกอบพิธีซ่งเก๊ง (สวดมนต์) ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันที่ 25 กันยายน 2557
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.57) เวลาประมาณ 17.00 น. แต่ละศาลเจ้าจะประกอบพิธียกเสาโก้เต้ง ซึ่งเป็นการประกอบพิธีอัญเชิญ เจ้ายกฮ่องซ่งเต่ หรือพระอิศวร และกิ๋วอ๋องไต่เต่ หรือพระผู้ใหญ่ทั้งเก้า มาเป็นประธานในพิธี และจะนำตะเกียง 9 ดวงไว้บนเสาโก้เต้ง ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มพิธีถือศีลกินผัก โดยในการร่วมประเพณีนั้นประชาชนส่วนใหญ่จะแต่งกายด้วยชุดขาว
น.ส. สมหมาย กล่าวว่า การจัดประเพณีถือศีลกันผักของจังหวัดภูเก็ตนั้น เป็นความร่วมมือระหว่างวังหวัดภูเก็ต ชมรมอ๊ามภูเก็ต องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานต่างๆ เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีที่เก่าแก่ และปฏิบัติต่อเนื่องกันมาเป็นเวลายาวนานนับ 100 ปี ซึ่งขณะนี้แต่ละศาลเจ้าพร้อมแล้วที่จะประกอบพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งนอกจาชาวภูเก็ตแล้วยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ เดินทางเข้ามาในช่วงดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วง 3 วันสุดท้ายของประเพณีซึ่งจะมีผู้ที่มีเชื่อสายจีนเดินทางเข้ามาร่วมประเพณีเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ทราบว่าอัตราการจองห้องพักสูงถึง 80 % คาดว่าในช่วง 9 วันของประเพณี จะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท และจะมีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 300,000 คน ขณะเดียวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาช่วงดังกล่าวด้วย