ทัพภาค 2 สั่ง "ออกจากพื้นที่" ร้านค้าริมลำตะคองรุกที่รัฐ

จากที่มีการร้องเรียนกรณีริมอ่างลำตะคองบริเวณมอปลาย่างระยะทางตั้งแต่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จนถึง ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว เป็นระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตร ได้ถูกบุกรุกเพื่อประกอบกิจการร้านอาหารเป็นจำนวนกว่า 50 ราย พื้นที่กว่า 5,800 ไร่ ซึ่งทางกรมชลประทาน ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ก็ได้ฟ้องผู้บุกรุกต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา เมื่อปี 2549 และศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าผู้บุกรุกมีความผิดตามกฎหมาย และมีคำสั่งให้ผู้บุกรุกทั้งหมดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากมอปลาย่าง แต่เจ้าหน้าที่ไม่อาจบังคับตามคำสั่งศาลได้ เพราะมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้บุกรุก ทำให้ทางกรมชลประทาน จึงส่งเรื่องคืนกรมธนารักษ์ ทำให้เกิดมลภาวะ และผู้ประกอบการได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงลำตะคอง มีสิ่งปลูกสร้างปิดบังทัศนียภาพอันสวยงาม ของเขื่อนที่ผู้เดินทางผ่านไป-มาตามที่เคยได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ย.57) พันเอกสมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผว่า ภายหลังจากที่กรมธนารักษ์ มีอนุญาตให้กลุ่มผู้ประกอบการมีการเช่าพื้นที่สาธารณะในบริเวณดังกล่าวได้ แต่ความเป็นพื้นที่สาธารณะนั้นอยู่บริเวณใด ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่าในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีพื้นที่ที่จะเป็นพื้นที่สาธารณะไปแล้ว ซึ่งพื้นที่สาธารณะก็จะต้องเป็นของสาธารณะ ไม่ใช่เป็นพื้นที่ประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการก็ได้มีการเข้ามาพูดคุยกัน ก็ได้แจ้งไปว่าในพื้นที่ดังกล่าวได้มีการถ่ายของเสียลงไปในลำตะคอง ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำกว่า 5 ล้านคน ที่จะต้องใช้น้ำที่รับของเสียจากพวกผู้ประกอบการ ก็จะต้องคิดว่ากลุ่มคนท้ายน้ำจะยอมรับได้หรือไม่ 
ในเบื้องต้นได้ชี้แจงกับผู้ประกอบการทั้งหมดให้พูดจากันด้วยเหตุและผล ไม่อยากให้ใช้หลักนิติศาสตร์มาพูดคุยกัน แต่หากใช้หลักนิติศาสตร์ก็จะต้องมีการใช้ กฎหมาย ของ ป.ป.ง. ในการยึดทรัพย์ ดังนั้นผู้ประกอบการควรถอยคนละก้าว ให้สำรวจพื้นที่ว่า มีผู้ประกอบการที่ต้องการค้าขายกี่รายและต้องการพื้นที่จำนวนกี่ไร่ เพื่อที่จะส่งเรื่องให้ทางราชการแก้ไขปัญหาให้ แต่ทุกคนที่บุกรุกในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องย้ายออก ส่วนระยะเวลาในการให้ผู้ประกอบการย้ายออก จะมีการหารืออีกครั้งหนึ่งในวันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2557 ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
---------