กรมชลฯชี้ เขื่อนใหญ่พร้อมรับพายุ "คัลแมกี"

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์น้ำขณะนี้ว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนใหญ่ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อย และยังคงมีพื้นที่รองรับน้ำได้มากพอสมควร โดยเฉพาะหากได้รับอิทธิพลจากพายุ คัลแมกี ที่อาจจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ทางตอนบนในระยะนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีในการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
        สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา  ที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 5,109 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 38 ของความจุอ่าง  เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,171 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 54 ของความจุอ่าง เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 569 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 61 ของความจุอ่าง  เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 592 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 62 ของความจุอ่าง ซึ่งภาพรวมทั้งหมดยังสามารถรับน้ำรวมกันได้อีกกว่า 13,400 ล้านลูกบาศก์เมตร
       อย่างไรก็ตาม สภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 845 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยสามารถรับน้ำได้สูงสุด 3,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 5.59 เมตร ส่วนสถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 702 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สามารถรับน้ำได้สูงสุด 2,840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนยังต่ำกว่าตลิ่ง 6.30 เมตร และที่อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,285 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.52 เมตร  โดยที่อ.บางไทร เป็นจุดวัดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่กรุงเทพ และปริมณฑล ที่รับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที