คนในพื้นที่ตั้งจังหวัดบัวใหญ่ เรียกร้องให้รีบจัดตั้ง

ความขัดแย้งของชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่มีความเห็นต่างกรณีการแบ่งแยกจังหวัดบัวใหญ่ ซึ่งมี 8 อำเภอ ผนวกเข้าด้วยกัน ประกอบด้วย อ.บัวใหญ่ บ้านเหลื่อม ประทาย คง โนนแดง แก้งสนามนาง บัวลาย และสีดา มีแนวโน้มขยายวงลุกลามบานปลายขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 ก.ย.57 ที่ลานอุนสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ประจำอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีมวลชนจากทั้ง 8 อำเภอ ร่วม 1 พันคน โดยมีนายคำพันธ์  บุญยืด อดีตหัวหน้าการประถมศึกษา อ.บัวใหญ่  ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ เป็นแกนนำ ได้นัดรวมตัวสำแดงพลัง เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต้องการขอแยกออกมาตั้งเป็นจังหวัดที่ 78 ของประเทศไทย
 บรรยากาศแกนนำแต่ละอำเภอ ได้ผลัดเปลี่ยนปราศรัยเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตั้งจังหวัดบัวใหญ่ ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ท่ามกลางมวลชนได้ยืนถือป้ายเขียนข้อความ เราขอสนับสนุนจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ช่วยจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ด้วย ย่าโมเข้าใจ บัวใหญ่เป็นจังหวัด จากนั้นได้ทำพิธีบวงสรวงสักการะท้าวสุรนารี เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จ
 นายคำพันธ์ กล่าวว่า ชาวบ้าน 8 อำเภอ ไม่ได้ยึดติดกับชื่อจังหวัดต้องเป็นบัวใหญ่ ยินดีที่จะใช้ชื่อจังหวัดสุรนารี หรือชื่อใดก็ได้ตามความเหมาะสม ย่าโมเป็นของทุกคนที่อาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย ไม่ใช่ผูกมัดเฉพาะชาวเมืองโคราช การกล่าวอ้างอัตตลักษณ์จึงไม่ถูกต้อง พวกเราให้ความเคารพศรัทธาย่าโม เหมือนกับชาวโคราช และคนไทยทุกคน คำขวัญของอำเภอบัวใหญ่ ได้บอกเล่าคุณงามความดีของย่าโมด้วย ที่สำคัญทุกปีได้จัดกิจกรรมวันฉลองชัยชนะท้าวสุรนารีอย่างยิ่งใหญ่   
 ส่วนกรณีที่นายวิรัช  รัตนเศรษฐ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ให้ข่าวว่า ยังไม่มีการทำประชาคมที่ อ.โนนแดง และ อ.ประทาย ขอยืนยันที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชากรทั้ง 8 อำเภอ กรณีขอแยกออกมาตั้งจังหวัดใหม่ ปรากฏมากกว่าร้อยละ 80 ต้องการเป็นประชากรจังหวัดที่ 78  ซึ่งสามารถสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ได้จากทางจังหวัด
  ชาวบ้าน 8 อำเภอ เปรียบเสมือนพื้นที่แอฟริกาโคราช เสียโอกาสในการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งควรจะยกระดับให้เทียบเท่ากับระดับจังหวัดมาตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และ สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา ลูกหลานชาวบ้าน 8 อำเภอ ต้องเดินทางเป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อมาศึกษาเล่าเรียน หลายครั้งผู้ป่วยต้องเสียชีวิตในระหว่างเคลื่อนย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานพยาบาลประจำจังหวัด สิ่งเหล่านี้พวกเราเหมือนพลเมืองชั้นสอง ที่อดอยากปากแห้ง ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร จึงต้องออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจดำเนินการตามที่เสียงส่วนใหญ่ร้องขอ ความเห็นต่าง โดยใช้ความรู้สึกมาตัดสิน จะไม่เป็นธรรมกับชาวบ้านกว่า 3.4 แสนคน นายคำพันธ์กล่าว