
พ.ต.ท.เรืองยศ ภูแช่มโชติ รอง ผกก.(ป) สภ.เมืองหนองคาย พร้อมกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบบ้านพักเลขที่ 203 หมู่ 7 บ้านหนองเดิ่น ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย เปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ของ น.ส.ฤทัยรัตน์ ชูสุวรรณ อายุ 22 ปี และนายสุวิชา คำภูกา อายุ 21 ปี สองสามีภรรยา ที่เข้าแจ้งความกับ สภ.เมืองหนองคาย ว่าถูกแก๊งทวงหนี้นอกระบบขว้างขวด และเผาบ้านในตอนดึกของคืนที่ผ่านมา
นายสุวิชา คำภูกา ให้การว่า เมื่อต้นปี 2556 นางเบญจรัตน์ ปัญญาสวัสดิ์ ป้าของภรรยากู้เงินนอกระบบจากนายทุน จำนวน 10,000 บาท และให้ภรรยาตนเป็นคนค้ำประกัน ทำสัญญาเงินกู้เป็น 2 ฉบับ ๆ ละ 5,000 บาท ให้ภรรยาตนเป็นลูกหนี้ร่วม แต่การจ่ายเงินคืนให้เจ้าหนี้เป็นหน้าที่ของนางเบญจรัตน์ ซึ่งนางเบญจรัตน์ฯ บอกว่าได้ใช้หนี้มาตลอด กระทั่งปลายปี 2556 นางเบญจรัตน์ ย้ายไปอยู่ จ.ขอนแก่น เนื่องจากรำคาญการทวงหนี้ทั้งที่นางเบญจรัตน์ บอกว่าได้จ่ายเงินตามสัญญาไปจนครบแล้ว แต่นายแจ็ค ไม่ทราบนามสกุล คนทวงหนี้ บอกว่ายังจ่ายไม่หมด เมื่อขอดูหลักฐานก็ไม่มีให้ดู และเมื่อถามว่าเหลือค้างอยู่เท่าไหร่ก็ไม่บอก
หลังจากนางเบญจรัตน์ ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว นายแจ็ค จึงได้มาทวงหนี้กับภรรยาของตนแทน ก็ยอมจ่ายแทนให้ตลอดครั้งละ 500 บาท จึงไม่รู้ว่าจะหมดตอนไหน กระทั่งตอนเช้าและตอนบ่าย ของเมื่อวานนี้ นายแจ็ค ได้มาทวงหนี้แต่ภรรยายังไม่มีให้ จึงถูกนายแจ็ค ด่าทอและข่มขู่ก่อนออกไป กระทั่งเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ เมื่อคืนนี้ ขณะที่ตนและครอบครัวนั่งเล่นอยู่ภายในร้าน ได้มีวัยรุ่นขับขี่รถ จยย.ผ่านหน้าร้านพร้อมขว้างขวดเข้าใส่ที่พวกตนนั่งอยู่แล้วหลบหนีไป ต่อมาเวลาประมาณเที่ยงคืน ขณะนอนอยู่ภายในบ้าน ได้มีวัยรุ่นขับขี่รถ จยย.มาจอดหน้าบ้าน ได้ยินเสียงเหมือนจุดไฟแช็ค แล้วได้ยินเสียงขับขี่รถ จยย.ออกไปอย่างรวดเร็ว สังเกตเห็นไฟกำลังลุกไหม้ขึ้นที่ประตูห้องพักของตน จึงรีบวิ่งออกมาดับได้ทัน กับเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร จึงเชื่อว่าเป็นฝีมือของแก๊งทวงหนี้นอกระบบแน่นอน ซึ่งตนและภรรยาจึงได้เข้าแจ้งความ และเข้าร้องเรียนไว้ที่ศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือเช่นกัน
จากนั้น พ.ต.ท.เรืองยศ ภูแช่มโชติ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สวส.สภ.เมืองหนองคาย จึงนำกำลังไปตรวจค้นที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ที่เซ็นเตอร์พอยส์ ด้านหลังเรือนจำ จ.หนองคาย ซึ่งเป็นที่พักของนายแจ็คฯ แต่ไม่พบตัว พบเพียงโพยลูกหนี้จำนวน 6 ชุด ซึ่งมีลูกหนี้กว่า 100 ราย จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ติดตามตัวนายแจ็คฯ มาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป