svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

อย. เตือนอย่าซื้อยาปฏิชีวนะใช้เอง เสี่ยงเกิดเชื้อแบคทีเรีย"ดื้อยา"

01 กันยายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หน้าฝนนี้ อย. เตือนผู้บริโภคอย่าซื้อยาปฏิชีวนะมาใช้เอง อาจได้รับอันตรายจากการใช้ยาไม่เหมาะสม และเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อแบคทีเรียดื้อยา
นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ในช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย อาจส่งผลให้ประชาชนเจ็บป่วยเป็นโรคหวัดได้ง่าย โดยจะมีอาการเจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอ มีเสมหะ หรืออาจมีไข้ร่วมด้วย และเมื่อมีอาการเหล่านี้คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าจะต้องกินยาปฏิชีวนะซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ประชาชนควรมีความรู้ก่อนว่าอาการหวัดเจ็บคอที่เป็นนั้นมีสาเหตุจากอะไร เนื่องจากส่วนใหญ่ของหวัดเจ็บคอ หรือร้อยละ 80 มักเกิดจากเชื้อไวรัส ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะ มีเพียงส่วนน้อยหรือร้อยละ 20 ที่อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และอาจจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะ หากประชาชนไม่รู้ข้อเท็จจริงนี้ และกินยาปฏิชีวนะทุกครั้งที่เป็นหวัดเจ็บคอ จะได้รับยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นบ่อยถึงร้อยละ 80
วิธีการเบื้องต้นในการแยกแยะระหว่างการติดเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย คือ หากเป็นหวัดเจ็บคอจากเชื้อไวรัส มักมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ มีเสมหะ เสียงแหบ คันคอ เจ็บคอ หรืออาจมีไข้ร่วมด้วย อาจนานประมาณ 7-14 วัน อาการจะมากสุดในช่วงวันที่ 3-5 หลังจากนั้นอาการโดยรวมจะค่อยๆ ดีขึ้น น้ำมูกจะน้อยลงและข้นขึ้นบางทีอาจมีสีออกเหลืองโดยเฉพาะช่วงเช้า แต่อาการไออาจอยู่นานกว่า 2 สัปดาห์ งานวิจัยชี้ชัดว่ายาปฏิชีวนะไม่ช่วยให้อาการไอและหวัดหายเร็วขึ้นแต่อย่างใด การรักษาที่ดีที่สุด คือ การพักผ่อนและดื่มน้ำอุ่นเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานมาต่อสู้กับเชื้อไวรัส และอาจปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการหวัด ไอ คัดจมูก หรือเจ็บคอ
ส่วนอาการเจ็บคอที่อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย มักมีอาการอย่างน้อย 3 ใน 4 ข้อนี้ร่วมกัน คือ ไม่ไอ มีไข้ ต่อมทอนซิลมีจุดขาวหรือเป็นหนอง และต่อมน้ำเหลืองใต้ขากรรไกรโตกดเจ็บ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสำรวจต่อมน้ำเหลืองของตนเองโดยการคลำบริเวณใต้ขากรรไกรเพื่อดูว่าต่อมน้ำเหลืองบริเวณนี้โตหรือกดเจ็บหรือไม่ และสามารถดูต่อมทอนซิลของตนเองโดยการอ้าปากและส่องกระจกดูที่ต่อมทอนซิลว่ามีจุดขาวหรือเป็นหนองหรือไม่ หากมีอาการ 3 ใน 4 ข้อ หรือมีอาการครบทั้ง 4 ข้อ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
ก่อนกินยาปฏิชีวนะทุกครั้งต้องมั่นใจว่าโรคที่เป็นมีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่ควรกินยาปฏิชีวนะโดยไม่รู้ว่าป่วยด้วยโรคติดเชื้อแบคทีเรียหรือไม่ โดยสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรซ้ำทุกครั้งเพื่อความมั่นใจ และขอเตือนประชาชนอย่าซื้อยาปฏิชีวนะมากินเอง อย่าใช้ยา ปฏิชีวนะตามที่ คนอื่นแนะนำ และอย่าแบ่งยาปฏิชีวนะของตนเองให้แก่ผู้อื่น เพราะไม่รู้ว่าเขาจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะหรือไม่ เนื่องจากยาปฏิชีวนะมีหลายชนิด เช่น เพนนิซิลลิน อะม็อกซิซิลลิน เตตร้าซัยคลิน อิริทโทรมัยซิน โคทรัยม็อกซาโซล เป็นต้น แต่ละชนิดใช้กับเชื้อแบคทีเรียต่างกัน หากใช้ไม่ถูกต้องอาจทำให้เชื้อดื้อยา และที่สำคัญไม่รู้ว่าเขาแพ้ยาหรือไม่ หรือมีโรคประจำตัวอะไร?
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ขอให้ร้องเรียนที่สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือ E-mail: [email protected] หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี11004 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อ อย. จะได้ดําเนินการปราบปราม และดําเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทําผิดต่อไป

logoline