วันนี้ยังมีเด็กไทยที่ไม่ได้รับรองสถานะความเป็นไทย ทำให้ขาดโอกาสในการเรียนและการทำงาน ล่าสุดมีผลวิจัยยืนยันว่าปัญหานี้ยังคงมีอยู่
" อรัญญา มาไกล" เยาวชนไร้สัญชาติเชื้อสายไทยใหญ่ จากจังหวัดเชียงใหม่ หนึ่งในกลุ่มตัวอย่างการศึกษาวิจัยพัฒนาสิทธิของเด็กไร้สัญชาติ กรณีการเข้าถึงการฝึกอาชีพ เธอเรียนกศน.จบ ม.6 และฝันอยากทำงานเป็นช่างเย็บผ้า จึงเข้าอบรมอาชีพกับศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานเชียงใหม่ แต่แล้วความฝันก็ดับวูบลง เพราะเรียนจบแล้วกลับไม่ได้วุฒิบัตร เนื่องจากไม่มีสัญชาติไทย ทำให้ต้องหันเหไปทำงานโรงงานน้ำดื่มแทนการเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าอย่างที่หวังไว้ อีกหนึ่งเยาวชนไร้สัญชาติเชื้อสายไทยใหญ่ จ.เชียงใหม่ ผัด ลุงต๊ะ บอกว่า เรียนจบชั้นม.3 จึงสมัครอบรมอาชีพสาขานี้ที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานนานาชาติเชียงแสน จ.เชียงราย แต่เมื่อเรียนจบแล้วไม่ได้รับวุฒิบัตร ไปสมัครงานตามร้านเบเกอรี่ก็ไม่รับเข้าทำงานเพราะไม่มีวุฒิบัตร ไม่มีสัญชาติไทย จึงต้องไปทำงานในร้านอาหารได้ค่าจ้างวันละ 180 บาท
อาจารย์ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล จากคณะนิติศาสตร์ ม.นเรศวร บอกถึงผลวิจัยพบว่า เด็กและเยาวชนไร้สัญชาติในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ขาดโอกาสฝึกอาชีพและทำงาน เพราะไม่มีสัญชาติไทย แต่ที่ได้เข้าอบรมกับศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด เพราะได้เงินสนับสนุนจากแพลน(ประเทศไทย) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่เข้ามาช่วยเหลือ
ด้วยข้อจำกัดของระเบียบกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เรื่องการฝึกเตรียมเข้าทำงาน ที่ให้ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทย นับเป็นการละเมิดสิทธิตามอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ โดยเฉพาะอนุสัญญาว่าด้วยอาชีวศึกษาและการศึกษาทางเทคนิคของยูเนสโก ขณะที่ ศาสตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ขอให้เยาวชนที่ฝึกอาชีพแล้วไม่ได้รับวุฒิบัตร ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสิทธิฯ พร้อมทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงแรงงาน ขอให้แก้ไขระเบียบกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและออกวุฒิบัตรให้แก่เยาวชนไร้สัญชาติด้วย