คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์เด็กแห่งชาติประกอบด้วย กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงมนุษย์ ตำรวจ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษา และกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิได้ประชุมหารือกรณีช่วยเหลือ เด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หรือการอุ้มบุญ
โดยนาย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ ในฐานะคณะกรรมการประเมิน และติดตามผลการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก บอกว่า ผลการประชุมได้แบ่งการแก้ไขปัญหาเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญเพื่อให้ความช่วยเหลือออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ กลุ่มที่ยังไม่ได้ตั้งครรภ์ โดยหน้าที่ความช่วยเหลือเป็นของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกลุ่มที่สองคือช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ และกลุ่มที่สาม คลอดแล้ว เป็นหน้าที่ความช่วยเหลือของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ให้การดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก รวมถึงมารดา โดยหลักการจะเปิดดำเนินการ ให้ผู้ที่ตั้งครรภแทนมาจดแจ้งสิทธิ์เพื่อให้ความคุ้มครองและดุแลเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นอกจากนี้ นายวัลลภ ยังเห็นว่า กรณีอุ้มบุญต้องเกี่ยวข้องกับการต่างประเทศ และสถานฑูต เพราะการอุ้มบุญส่วนใหญ่เป็นการอุ้มบุญให้ชาวต่างชาติหมายความว่าต้องนำเด็กออกนอกประเทศ ดังนั้นคณะกรรมการคุ้มครองเด็กต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจังในเรื่องของการส่งเด็กออกนอกประเทศ