svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สนามบินภูเก็ต เฝ้าระวังอิโบล่า

22 สิงหาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ภูเก็ต - ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ตเฝ้าระวังผู้เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงเชื้อไวรัสอิโบล่า 4 ประเทศ กินี เชียรราลีโอน ไลบีเรีย และไนจีเรีย

จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุขเพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบล่าจาก 4 ประเทศที่มีการระบาดและพบผู้เสียชีวิต ได้แก่ ประเทศกินี เชียรราลีโอน ไลบีเรีย และไนจีเรีย ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศผ่านสายการบินต่างๆ มายังประเทศไทยใน 5 สนามบินทั่วประเทศ ซึ่งในวันนี้ (22 ส.ค.57) ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ทำการตรวจเข้มประวัติการเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยัง 4 ประเทศดังกล่าว เพื่อคัดแยกมาสอบประวัติ และตรวจร่างกาย ก่อนติดตามเฝ้าระวังเป็นระยะเวลา 21 วันนายทัสสยุ เดชะโชติ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้เริ่มมาตรการเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อโรคดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้พบผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศเสี่ยงหรือมีประวัติการเดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด จำนวน 7 ราย โดย ยังคงพำนักอยู่ในภูเก็ตจำนวน 4 ราย เดินทางไปต่างประเทศแล้ว 1 ราย และไปต่างจังหวัด 2 ราย คือ กรุงเทพและจังหวัดสงขลา ซึ่งทั้งหมดไม่พบอาการที่บ่งชี้ว่าจะติดเชื้อไวรัสอีโบล่า แต่เนื่องจากเดินทางมาจากประเทศดังกล่าวจึงจำเป็นที่จะต้องอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง 21 วันนับตั้งแต่เดินทางมา จนกว่าจะพ้นระยะฟักเชื้อ 21 วันทั้งนี้นักท่องเที่ยว 4 ราย ที่อยู่ในภูเก็ตนั้น มี 3 ราย เดินทางมาจากเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่มีการระบาด เจ้าหน้าที่ได้ติดตามดูอาการและตรวจร่างกายทุกวัน ส่วนอีก 1 รายเป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่มีประวัติเดินทางไปยังประเทศไนจีเรียก่อนจะเดินทางมายังภูเก็ต ซึ่งรายนี้สมัครใจไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเองทุกวันเนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน ในขณะที่อีก 2 รายที่เดินทางไปกรุงเทพมหานครและจังหวัดสงขลา ตรวจสอบแล้วไม่มีอาการบ่งชี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังกองควบคุมโรคของจังหวัดที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปให้มีการติดตามดูอาการ และตรวจร่างกายทุกวันสำหรับมาตรการอื่นๆ ภายในจุดเช็คอินของด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ติดตั้งไว้ เพื่อแจ้งให้ผู้ที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศเสี่ยงเข้ารายงานตัวตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พร้อมเปิดช่องทางพิเศษ 2 ช่องทาง เพื่อคัดแยกผู้ที่มีความเสี่ยงเข้าแจ้งประวัติการเดินทาง ก่อนการสอบประวัติและตรวจร่างกาย พร้อมทั้งกรอกแบบฟอร์ม ต.8 เพื่อแจ้งการรายงานตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวหากไม่ไปรายงานตัว หรือไม่ให้ติดตามผลจนครบ 21 วัน ก็จะไม่สามารถเดินทางออกจากประเทศได้ นอกจากนี้เรื่องการรักษาความสะอาด ก็ได้กำชับเรื่องการทำความสะอาดภายในอาคารผู้โดยสารเป็นพิเศษ มีการตั้งจุดบริการเจลล้างมือในพื้นที่หลายจุด เช่น จุดเช็กอิน ห้องน้ำ ที่นั่ง เป็นต้น เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสแฝงที่จะมาจากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากร่างกาย เช่น น้ำมูก น้ำลาย เป็นต้น
            หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศยังกล่าวว่า ในส่วนของภูเก็ต ไม่มีเที่ยวบินตรงมาจาก 4 ประเทศเสี่ยง แต่มีสายการบินที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 2 สายการบินเท่านั้น ได้แก่สายการบิน กาตาร์แอร์เวย์ ซึ่งบินมาจากโดฮา วันละ 1 - 2 เที่ยวบิน และสายการบินเอมิเรตส์ สัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน โดยเจ้าหน้าที่จะต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ เพราะนักท่องเที่ยวจาก 4 ประเทศดังกล่าวมักต่อเครื่องมายังประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนผู้โดยสารจากสายการบินที่มาจากกลุ่มประเทศอื่นๆ ที่ยังไม่มีการระบาด จะตรวจดูประวัติการเดินทางย้อนหลังในหนังสือเดินทาง รวมถึงสังเกตอาการหากมีอาการป่วยก็จะต้องนำเข้าตรวจสอบทันที

logoline