svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กต.สรุปให้ความช่วยเหลือ คนไทยในลิเบีย

21 สิงหาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

21 ส.ค. -- กต.สรุปการให้ความช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย ยืนยันไม่ปิดสถานทูต จนท.อยู่ช่วยเหลือจนกว่าจะอพยพคนไทยกลับได้ทั้งหมด

นายณัฐฎวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย พลโทหฤษฎ์ พุ่มหิรัญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร นายสิงหเดช ชูอำนาจ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงสรุปการช่วยเหลือการอพยพคนไทยในลิเบีย โดยรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ขณะนี้สามารถนำคนไทยเดินทางกลับประเทศได้ทั้งหมด 881 คน จากจำนวนคนไทยทั้งหมด 1,342 ตน และยังเหลือคนไทยในศูนย์อพยพที่กรุงตูนิส ประเทศตูนีเซียที่รอการประสานเพื่อเดินทางกลับรออยู่ 246 คน ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่ในศูนย์ประสานงานที่กรุงตูนิสจะสามารถช่วยเหลือคนไทยให้สามารถเดินทางกลับได้ทั้งหมด ภายในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ขณะเดียวกันยังคงเหลือกลุ่มคนไทยอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเดินทางกลับหรือไม่ จำนวน 46 คน และยังคงเหลือแรงงานไทยที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยสมัครใจอยู่ทำงานต่อ 170 คน ซึ่งในภาพรวมการอพยพคนไทยเป็นไปด้วยความราบรื่น กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นสมควรให้มีการปิดศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือคนไทยในลิเบียที่กระทรวงการต่างประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นตนไป โดยหลังจากนี้กองคุ้มครอและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล จะรับหน้าที่ประสานงานต่อไป 
ขณะที่ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับแรงงานไทยในลิเบียที่เดินทางกลับส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสำนักงานบริหารแรงงานไทยในต่างประเทศจะได้รับเงินเยียวยาคนละ 15,000 บาท โดยสามารถติดต่อขอรับเงินได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดในภูมิลำเนาของตัวเอง 
นอกจากนี้กรมการจัดหางานก็จะติดต่อและสอบถามถึงความต้องการ หากต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศหรือทำงานประเทศไทยก็จะช่วยติดต่อและประสานงานให้ โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูล 02 2456499 หรือ สายด่วน 1694 ได้ 
ด้านรองอธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ในลิเบียยังไม่สงบ และอาจจะยังไม่ยุติลงในเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งยังคงมีการสู้รบของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างทั่วประเทศลิเบีย โดยสถานทูตหลายประเทศก็ทยอยปิดตัวหรือย้ายข้าราชการไปปฎิบัติหน้าที่ประเทศข้างเคียงแล้ว  สำหรับประเทศไทยกระทรวงการต่างประทศมีนโยบายคำนึงถึงความสำคัญความปลอดภัยชีวิตของข้าราชการที่ปฎิบัตหน้าที่อยู่จึงได้สั่งการให้เอกอัครราชทูต และข้าราชการย้ายไปปฎิบัติหน้าที่ที่เมืองเจอร์บาแทน ส่วนจะมีการปิดสถานเอกอัครราชทูตหรือไม่นั้นจะมีการประเมินสถานการณ์รวมถึงพัฒนาการในประเทศลิเบียอีกครั้ง โดยปัจจัยที่ปิดสถานทูตจะพิจารณาจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นและยืดเยื้อจนนำไปสู่การดำเนินชีวิตที่ไม่ปกติและมีความลำบากขี้น 

logoline