เดินหน้าเอาผิดคอนโด Waterfront ผ่าฝืนคำสั่งระงับก่อสร้างอาคารผิดแบบ

ต่อมา นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง ผ่านสื่อมวลชน โดยระบุว่า โครงการ Waterfront Suites & Residence Pattaya ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกรณีความถูกต้องในการอนุญาตการก่อสร้างอาคารสูง และการบดบังภูมิทัศน์ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งข้อเท็จจริงโครงการนี้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2547 โดยบริษัท บาลีฮาย จำกัด ในที่ดิน 7 แปลง รวม 2-1-63 ไร่ ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยขนาดใหญ่ 1 อาคาร ห้องพัก 315 ห้อง พื้นที่ใช้สอย 38,500 ตารางเมตร ความสูง 53 ชั้น ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) อย่างถูกต้อง เมืองพัทยาจึงได้พิจารณาตามข้อตอนของกฎหมายที่มีอยู่ และเคยให้ข้อสังเกตและข้อกังวลต่อ สผ.ไปแล้ว ในเรื่องความเหมาะการบดบังทัศนียภาพของเมืองพัทยา
ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้เข้าไปตรวจสอบการดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่า มีการก่อสร้างอาคารผิดรูปแบบจากที่ขออนุญาตไว้ต่อทาง สผ.ในเรื่องของบันไดหนีไฟ และช่องลิฟต์ในตัวอาคาร จึงระงับการก่อสร้างไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2557 เป็นเวลา 45 วัน เพื่อให้เอกชนทำการปรับปรุง และแก้ไขให้ถูกต้อง และเป็นไปตามการขออนุญาต ซึ่งพบว่ามีการฝ่าฝืนลักลอบดำเนินการก่อสร้างอาคารอย่างต่อเนื่องทุกวัน
ล่าสุดวันที่ 20 ส.ค. นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้มอบหมายให้ นายวสันต์ อันทวาปี นิติกรเมืองพัทยา และนายสมชาย บำรุงศักดิ์ หน.ฝ่ายเครื่องจักรกลโยธา รักษาราชการแทนตำแหน่ง หน.ฝ่ายควบคุมอาคาร เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา ในข้อหา ฝ่าผืนการสร้างอาคารผิดแบบ และห้ามใช้อาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมี พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนรับเรื่องและตรวจสอบเอกสาร พร้อมกับลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่ยังไม่ได้รับแจ้งความ เนื่องจากติดปัญหาในเรื่องเอกสารที่ยังไม่ครบ โดยให้กลับไปรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบ เพื่อแจ้งความดำเนินการกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในวันศุกร์ที่ 22 ส.ค.57 นี้อีกครั้ง
จากนั้น คณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจากเมืองพัทยา ได้เดินทางไปตรวจสอบ จุดที่มีก่อสร้างผิดแบบ ภายในอาคารดังกล่าว ซึ่งพบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ และคนงานทำงานอยู่เลย เนื่องจากทราบข่าวว่า เมืองพัทยาได้เข้าแจ้งความเอาผิดกรณีฝ่าผืนคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง โดยคนงานถูกขนย้ายออกจากโครงการฯไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง เหลือเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยเฝ้าอยู่ที่หน้าทางเข้าโครงการเท่านั้น
ภายหลังที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปที่ บริษัท Bali hai จำกัด เพื่อติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารของโครงการ Waterfront คอนโดมิเนียม ถึงกรณีดังกล่าว โดยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ผู้รับโทรศัพท์แจ้งว่า ขณะนี้ผู้บริหารซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ไม่ได้พำนักอยู่ที่เมืองไทย จึงไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ และได้เขียนข้อความชี้แจ้งกรณีการค้ดค้านไว้บนหน้าโฮมเพจในนามของ Tulip Group ทาง ซึ่งมีข้อความว่า Tulip Group มีความภาคภูมิใจที่เป็นผู้พัฒนาโครงการโรงแรม และคอนโดมิเนียมในเมืองพัทยา โครงการต่างๆของเราสร้างงานให้กับคนท้องที่ซึ่งเป็นคนไทยมากว่าพันคน เมืองพัทยาเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกก็ว่าได้ และหากเมื่อท่องเที่ยวนี้มีโรงแรมและคอนโดมิเนียมระดับ 5 ดาว แน่นอนว่านักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะต้องแวะเวียนมาเยี่ยมเยียน นักท่องเที่ยวเหล่านี้จะนำรายได้เขาสู่เมืองพัทยาและนี่จะช่วยสนับสนุนธุรกิจของคนไทยที่มีและยังทำให้มีการสร้างานเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ขณะนี้ มีการตั้งประเด็นบนสื่อสังคมออนไลน์และเว็ปไซต์ต่างๆเกี่ยวกับโครงการ Waterfront ณ แหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ เราจึงขอออกมาชีแจงว่า โครงการของเราถูกต้องตามกฎหมาย 100 % เรามีใบอนุญาต EIA (รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม) และใบอนุญาตการก่อสร้างอาคารอย่างถูกต้องจากทั้งงทางเมืองพัทยาและจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพย์ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโครงการ Waterfront ช่วยพัฒนาภูมิทัศน์โดยรอบของแหลมบาลีฮาย การก่อสร้างจะแล้วเสร็จกลางปีหน้า และจะเป็นโครงการที่สวยงามสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมเมืองพัทยาโครงการนี้ยังสร้างงานให้กับคนไทยอีกหลายอัตราและจะยกมาตรฐานเมืองพัทยาไปสู่ระดับสากล พวกเราเสียใจที่มีคนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาต่อต้านโครงการนี้ ว่าไม่เหมาะสมกับเมืองพัทยา พวกเรามีความตั้งใจจริงที่จะเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาให้น่าอยู่ทั้งสำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยวทุกคน