ศาลอาญาไกล่เกลี่ยสำเร็จ ยุติคดีธรรมวัฒนะ

ที่ศูนย์ประนอมข้อพิพาท ชั้น 7 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 29 ก.ค.57 เวลา 10.00 น. ศาลนัดไกล่เกลี่ย คดีหมายเลขดำ อ.1628/2555 ที่นายวิกรม ธรรมวัฒนะ บุตรชายเทอดชัย หรือผู้ใหญ่แดง ธรรมวัฒนะ ที่เสียชีวิตแล้ว หนึ่งผู้ถือหุ้น บริษัท สุวพีร์ โฮลดิ้ง ดำเนินธุรกิจตลาดยิ่งเจริญ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.คนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ , นางนฤมล มังกรพานิชย์ และนายนรินทร์ วงศ์ไทย ทนายความ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐาน เบิกความเท็จ นำสืบหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ จากกรณีเมื่อวันที่ 3 พ.ค.55 น.ส.คนึงนิตย์ กับพวกเบิกความเท็จต่อศาลแพ่ง ในประเด็นสำคัญ ทำให้ศาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้นายวิกรม นำหุ้นพิพาทของบริษัท สุวพีร์ ธรรมวัฒนะ จำกัด ไปลงคะแนนเสียงในการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ทำให้นายวิกรม ได้รับความเสียหายโดยก่อนหน้านี้ ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาให้ทายาทตระกูลธรรมวัฒนะ 2 ฝ่ายเข้าเจรจาประนอมข้อพิพาทกัน ซึ่ง 2 ฝ่ายมีคดีฟ้องกันอยู่ชั้นพิจารณา ทั้งที่ศาลอาญา ศาลแพ่ง ศาลแขวงพระนครเหนือและอื่นๆ รวม 48 คดี ซึ่งศาลจัดให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ย ตั้งแต่ เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการเจรจาถึง 6 ครั้งจนได้ข้อยุติ ที่พี่น้องตระกูลธรรมวัฒนะทั้ง 2 ฝ่าย ยินยอมตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในวันนี้ ซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่าย จะให้ถอนฟ้องที่มีต่อกันทุกคดีทั้งอาญา และแพ่ง และจะนำข้อตกลงที่ทำร่วมกันในวันนี้ ไปใช้เพื่อประกอบในการถอนฟ้องทั้ง 48 คดีดังกล่าวขณะที่วันนี้ พี่น้องตระกูลธรรมวัฒนะ ทั้ง 2 ฝ่าย คือ นายปริญญา ธรรมวัฒนะ และนางนฤมล มังกรพานิชย์กับ น.ส.คนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ เดินทางมาทำสัญญาประนอมข้อพิพาทกันที่ศาลอาญา ซึ่งกระบวนการเจรจาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งภายหลังทั้งสองฝ่าย ได้จับมือกัน พร้อมให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากเจรจาตกลงเกี่ยวกับมรดกตระกูลธรรมวัฒนะ ซึ่งเป็นปมขัดแย้งกว่า 14 ปี ภายหลังจากที่นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ พี่ชายคนโต ได้เสียชีวิตไปภายหลังการประนอมข้อพิพาท นายปริญญา ธรรมวัฒนะ กล่าวว่า ขอขอบคุณศาลที่แนะนำให้ครอบครัวมาไกล่เกลี่ยคดีกัน จนได้ข้อตกลงที่กันดีทั้งสองฝ่าย คดีแพ่ง - อาญาที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว ตั้งแต่นายห้างทอง พี่ชายเสียชีวิต ก็เป็นเวลากว่า 14 ปีแล้ว และคดีที่ฟ้องร้องกับนายนพดล ธรรมวัฒนะ พี่ชายอีกคนด้วย รวมทั้งสิ้น 48 คดี แต่วันนี้สามารถตกลงไกล่เกลี่ยกันได้ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ตนไม่คาดคิด ขณะที่ตนได้ขายหุ้นและกิจการทั้งหมด ให้กับนางนฤมล ส่วนแนวทางการบริหารธุรกิจตลาดยิ่งเจริญจะเป็นอย่างไรจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับนางนฤมล และ น.ส.คนึงนิตย์ จะเป็นผู้บริหารต่อไป หลังจากนี้ตนจะวางมือส่วนเรื่องธุรกิจให้ถือเป็นหน้าที่ของรุ่นลูกต่อไป การประนอมในวันนี้ ถือว่าเป็นการปิดตำนานคดีที่ต่อสู้คดีความกันมายาวนาน กว่า 14 ปี ส่วนมูลค่าซื้อขายหุ้นที่ตกลงกันได้ ผมไม่ขอเปิดเผย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือครอบครัวสงบสุข นายปริญญา ระบุด้านนางนฤมล มังกรพานิชย์ ตัวแทนพี่น้องตระกูลธรรมวัฒนะอีกฝ่าย ก็กล่าวขอขอบคุณศาล ที่ช่วยไกล่เกลี่ยคดีจนสามารถตกลงกันได้ และขอให้คดีของครอบครัวตระกูลธรรมวัฒนะ เป็นตัวอย่าง เมื่อพี่น้องมีปัญหา ต้องหันหน้าคุยกัน และหาทางแก้ไข เพื่อให้ความบอบช้ำ และความเสียหายเบาบางลง ส่วนคดีที่ฟ้องกัน 48 เรื่องนั้น แบ่งเป็นคดีแพ่ง 43 เรื่อง และคดีอาญา 5 เรื่องที่อยู่ในศาลแขวงพระนครเหนือและศาลอาญา สำหรับธุรกิจของครอบครัวนั้น ถือว่าเมื่อประกอบกิจการมาระยะหนึ่ง ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาซึ่งอยู่ที่ว่าจะสามารถยอมรับ และเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ขณะที่นายเจษฎา ยวงทอง ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอาญา ผู้ประนอมข้อพิพาทคดีนี้ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากมีการฟ้องร้องต่อศาลอาญาในข้อหาเบิกความเท็จ คดีฟ้องแพ่งเรื่องมรดก โดยการประนีประนอมนี้นับได้ว่ามีความยุ่งยากพอสมควรเนื่องจากมีบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก และประเด็นมรดกมีจำนวนมาก แต่ทั้งสองฝ่าย ก็เจรจาจนตกลงยอมทำสัญญากันได้ ซึ่งทรัพย์สินก็มีการขายขาด 100 % และแบ่งผลประโยชน์กันทั้งนี้เมื่อมีการทำสัญญาประนีประนอมกันแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็จะต้องปฎิบัติตามข้อสัญญาให้ครบถ้วนทุกข้อ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาในภายหลัง อีกฝ่ายก็สามารถที่จะยื่นเรื่องต่อศาลแพ่งให้มีการบังคับคดีตามข้อปฏิบัติที่ตกลงกันในสัญญาประนีประนอมดังกล่าว ส่วนบรรยากาศการประนีประนอมที่ผ่านมา แต่ละฝ่ายยังไม่อาจเผชิญหน้ากันได้ ก็ต้องหาจุดร่วมเรื่องความต้องการของแต่ละฝ่าย และอาศัยความสัมพันธ์พี่น้องจนสามารถเผชิญหน้าและประนีประนอมกันได้สำเร็จ