โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ตั้งแต่เริ่มมาตรการ 5 จอม พบว่า ขณะนี้มีกล้องซีซีทีวี ติดตามทางแยกแล้ว ประมาณ 60-70 % ดั้งนั้น จึงมีนโยบายที่จะพัฒนาให้มีการติดตั้งกล้องครบทุกจุด ซึ่งแต่ละแยกจะต้องมีกล้องทั้งหมด 16 ตัว แบ่งเป็นด้านหน้า 8 ตัว (สี่ทางแยก) สำหรับจับผู้กระทำผิดกฎจราจร และด้านหลัง 8 ตัว เพื่อสังเกตท้ายแถวสะสมของรถ ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ทั้งนี้ นอกจากจะใช้จับรถที่กระทำผิดกฎจราจรและรถติดแล้ว ยังจะนำมาใช้เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม โดยจะเชื่อมสัญญาณกล้อง และข้อมูลเข้ากับศูนย์มิราเคิลอายของกองบัญชาการตำรวจนครบาล
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า การนำเทคโนโลยีมาใช้ จะเป็นหนทางที่สามารถลดความกระทบกระทั่งระหว่างตำรวจจราจร กับผู้ขับขี่ได้ รวมทั้งเป็นการผ่อนคลายความเครียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะที่ผ่านมามีตำรวจหลายนาย ที่ถูกย้ายมาประจำการสายงานจราจร แล้วเกิดความเครียด คาดว่าจะเร่งให้แล้วเสร็จภายในก.ย.2557 นี้
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะมีการพัฒนาป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจรทุกทางแยก ให้เป็นศูนย์วันสตอปเซอร์วิส เพื่อควบคุมระบบการจราจร และจับกุมผู้ที่ทำผิดกฎจราจร รวมถึงเป็นจุดบริการประชาชน
อย่างไรก็ตาม สำหรับงบประมาณในการจัดการติดตั้งกล้อง จะมีการจัดสรรมาจากภาคเอกชน ซึ่งทางตำรวจจะไม่รองบประมาณจาก กทม. เนื่องจากมีความล่าช้า ส่วนด้านงบประมาณในการบำรุงรักษาจะนำเงินกองทุนพัฒนางานจราจรตำรวจนครบาล ซึ่งขณะนี้การจัดตั้งกองทุนอยู่ระหว่างแก้ไขรายละเอียด เพื่อนำเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของ สตช. ก่อนที่จะมีการนำมาใช้ดำเนินการเป็นสวัสดิการ สำหรับบริหารงานด้านการจราจรต่อไป