เสี่ยร้านดนตรี"ย่งเส็ง"โดดเจ้าพระยา เครียดโดนไล่ที่ !

ปมปริศนาการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัย 55 ปี เจ้าของห้างขายเครื่องดนตรีชื่อดังย่านเวิ้งนาครเขษม เขตสัมพันธวงศ์  ได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.สุทธินันท์ อัศวโสภณ ทายาทของ นายชัชวาล อัศวโสภณ  หรือ เฮียโต เจ้าของห้างดนตรี ย่งเส็ง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมว่า บิดา คือนายชัชวาลหายตัวไปจากร้านย่านสี่เเยกวัดตึกเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 พฤษภาคม และได้แจ้งความไว้ที่ สน.ปากคลองสาน เพื่อให้ช่วยตามหาแล้ว หลังจากกล้องวงจรปิดย่านวัดจีจินเกาะ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา 17 เขตคลองสาน สามารถจับภาพได้ขณะไปไหว้พระที่นั่นก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย น.ส.สุทธินันท์ กังวลว่าบิดาจะได้รับอันตราย หรืออาจคิดสั้น เพราะเครียดเรื่องที่ร้านถูกเวนคืนที่ดิน  วันเดียวกัน ที่บริเวณท่าเรือจีจินเกาะ วัดทองนพคุณ เเขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็งตึ๊งพร้อมชุดประดาน้ำ ได้ร่วมกันค้นหานายชัชวาล หลังญาติระบุว่า พบภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพของนายชัชวาลไว้ได้ ขณะเดินไปมาบริเวณดังกล่าว  ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ประภัศ เขียวประภัสสร พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ปากคลองสาน กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากนายพลกร อัศวโสภณ อายุ 24 ปี บุตรชาย ของนายชัชวาลว่า บิดาของตน คือนายชัชวาล เจ้าของบริษัทย่งเส็งวัฒนาเทรดดิ้ง จำกัด เลขที่ 128-130 เวิ้งนาครเขษม ซอย 1 (เจริญกรุง ซอย 8) แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ หรือห้างดนตรี ย่งเส็ง หายตัวไปที่บริเวณท่าเรือวัดจีจินเกาะ แขวงและเขตคลองสาน จึงประสานขอชุดประดาน้ำมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาร่วมตรวจสอบ พ.ต.ท.ประภัศ กล่าวว่า เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ขอดูกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เวลาประมาณ 15.00 น. นายชัชวาล เดินทางมาที่ท่าน้ำดังกล่าว และสักการะศาลเจ้าที่ริมน้ำ ก่อนที่จะหย่อนตัวลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และหายตัวไป โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลางมหาเป็นเวลา 5 ชม. แต่ไม่พบจึงยุติการค้นหา นายพลกร กล่าวว่า ครอบครัวของตนขายเครื่องดนตรีที่เวิ้งนาครเขษม มานานกว่า 100 ปีแล้ว การที่บิดาหายตัวไปคาดว่าเกิดจากความเครียด เนื่องจากเมื่อประมาณ 2-3 ปี ที่ผ่านมา ที่ดินที่ตระกูลของตนทำมาหากินมานานกว่า 100 ปี ถูกไล่ที่ พ่อของตนจึงไปลงทุนเปิดร้านใหม่ที่บริเวณแยกวัดตึก ไม่ห่างจากร้านเก่าเท่าไรนัก เพื่อเตรียมตัวขยับขยายจากร้านเดิมที่ถูกให้ย้ายออกภายในเดือนกรกฎาคม ส่วนร้านใหม่ ซึ่งลงทุนไปประมาณ 10 ล้านบาท เปิดกิจการได้ประมาณ 2 ปี ก็ถูกเจ้าของที่ดินบริษัทเดียวกันเข้ามากว้านซื้อที่ดินและแจ้งให้กิจการร้านค้าต่างๆ ย้ายออกไปในปี พ.ศ.2560 จึงคิดว่า พ่อของตนคงกังวลและเครียดกับเรื่องเงินที่ลงทุนไป  นายพลกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม  พ่อของตนออกจากร้านไปในช่วงเวลา 14.23 น. ซึ่งทางญาติก็ไม่มีใครทราบว่าไปไหน ญาติทุกคนจึงช่วยกันโทรศัพท์ติดตามก็ไม่รับสาย จากนั้นตนจึงเดินไปในห้องทำงานก็พบนาฬิกา กระเป๋าสตางค์ พร้อมเอกสารส่วนตัว โทรศัพท์มือถือ และเครื่องประดับต่างถูกเก็บใส่ถุงยัดไว้ในลิ้นชักและล็อกกุญแจเป็นอย่างดี ทุกคนจึงมั่นใจว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายกับพ่อ จากนั้นจึงไปสอบถามพนักงานในร้านก็ทราบว่า พ่อพกเพียงนามบัตรแบบพลาสติกติดตัวไปเพียง 1 ใบเท่านั้น  นายพลกร กล่าวว่า หลังจากทราบพิกัดว่า พ่อของตนไปที่วัดทองนพคุณ ซึ่งติดอยู่กับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นวัดที่บ้านของตนมาทำบุญอยู่เป็นประจำ ตนพร้อมกับญาติจึงรีบติดตามไปเพื่อสอบถามข้อมูลกับชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่า ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วันเดียวกัน มีชายลักษณะเหมือนกับพ่อของตนกระโดดลงน้ำจริง และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบว่า เป็นพ่อของตนจริงๆ ส่วนสาเหตุที่พ่อพกนามบัตรแบบพลาสติกติดตัวไป เชื่อว่าต้องการบอกให้รู้ว่า ทำธุรกิจอยู่ในเวิ้งนาครเขษม และกำลังเดือดร้อนจากการถูกไล่ที่เหมือนกับพ่อค้ารายอื่นๆ ที่ค้าขายอยู่ย่านเดียวกันล่าสุด 07.00 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปากคลองสาน รับแจ้งพบศพลอยน้ำ ลอยติดที่บริเวณท่าน้ำวัดระฆัง สภาพคว่ำหน้า สวมกางเกงขายาว จึงได้ดำเนินการนำศพขึ้นมาตรวจสอบ โดยเบื้องต้นสภาพศพมีรูปพรรณสัณฐานตรงกับ นายชัขวาล อัศวโสภณ หรือเฮียโต  อายุ 55 ปี เจ้าของร้านดนตรีย่งเส็ง ย่านเวิ้งนาครเขษม ซึ่งก่อนหน้านี้ทางญาติได้แจ้งความไว้ว่าหายตัวออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา  ต่อมาทางญาติของนายชัชวาลได้เดินทางมาดูศพดังกล่าว พร้อมกับยืนยันว่าเป็นศพของนายชัชวาลจริง