svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

ฤดูกาลชีวิต "ปู" ในโชคชะตา และวิถีของ "ตัวช่วย"

27 กันยายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ย้อนรำลึกเรื่องราวของ"ปู"ยิ่งลักษณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะที่จะช่วยเพิ่ม "อรรถรส" คือ ภาพของสาวปูขณะถ่ายแบบลงนิตยสาร Generation เดือนกรกฎาคม 2533 คอลัมน์ Taste

ที่มา : www.komchadluek.net/news/people/297037


ไม่ว่าคำตัดสินชี้ชะตายิ่งลักษณ์ ชินวัตรในคดีจำนำข้าว วันที่ 27 กันยายน 2560 ออกมาอย่างไร นาทีนี้ทุกคนยอมรับว่า เธอคือผู้หญิงที่คนไทยแทบทุกคน กำลังสนใจความเป็นไปมากที่สุด ในทุกๆ ความเคลื่อนไหว ถึงขนาดภาพในเงาสะท้อนจากแว่นของหลานอิ๊ง ก็ยังเกิดเป็นประเด็นเข้าจนได้!


ย้อนรำลึกเรื่องราวของ"ปู"ยิ่งลักษณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะที่จะช่วยเพิ่ม "อรรถรส" คือ ภาพของสาวปูขณะถ่ายแบบลงนิตยสาร Generation ฉบับเดือนกรกฎาคม 2533 คอลัมน์ Taste ซึ่งเขียนโดย "กานต์ นิวเวฟ"

โดยแม้ว่าภาพนี้จะเคยถูกสื่อนำมาเผยแพร่ ฮือฮากันมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่วันนี้เมื่อหยิบขึ้นมาดูอีกที ก็ยังอดทึ่งไม่ได้!

เพราะ "ปู" เวลานั้นคือหญิงสาววัย 22 ใบหน้าอ่อนเยาว์สะสวย และมีสถานะของน้องสาว ดร.ทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจใหญ่ด้านคอมพิวเตอร์

ขณะที่ตัวเธอเองก็กำลังเรียนปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเคนตักกี้สเตท สหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งบรรยากาศและบริบท ไม่มีใครแทบจะนึกภาพออกเลยว่า 22 ปีต่อมา เธอคนนี้คือนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย!

ลงไปดูเนื้อหาของวันนั้น ระบุว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลูกสาวคนสวยของอดีต ส.ส.เชียงใหม่ เลิศ ชินวัตร อีกทั้งเป็นน้องสาวคนโปรดของ เยาวลักษณ์ ชินวัตร อดีตเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และมีพี่ชายอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจคนดังด้านคอมพิวเตอร์ขณะที่ในเนื้อหายังระบุถึงคำเมืองที่ สาวปูให้สัมภาษณ์ออกมาว่า

"อยู่ที่เมืองนอกปูต้องวางตัว ทำตัวเป็นผู้ใหญ่และต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างค่ะ ไม่เหมือนอยู่ที่บ้านเราที่มีพี่ๆ คอยดูแล ทำให้ปูรู้สึกว่าเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา"

"จบทางด้านนี้ผู้หญิงจะก้าวหน้าในหน้าที่การงานยาก แต่อัตราการว่าจ้างก็พอมี คนที่เรียนรัฐศาสตร์จะมีความเฉียบขาดมากกว่าคณะอื่น เพราะเรามองคลุมได้ชัดเจนในทุกเรื่อง ใช่มั้ยคะ"


และน่าทึ่งหนักเข้าไปอีก เมื่อเธอบอกกับนิตยสารเล่มนั้นว่า ความฝันของเธอ คือกลับมาช่วยธุรกิจของพี่ชาย แต่ยามที่คิดถึงบ้าน เธอก็ได้แต่ฟังเพลงไทยเดิม และเหงาจนต้องร้องไห้ทุกครั้ง(จากนิตยสาร Generation ฉบับเดือนกรกฎาคม 2533)

ถึงตรงนี้หลายคนอ่านแล้วอาจขนลุก เพราะเวลานี้สาวปูในวัย 50 ก็ต้องระเห็จหายไปจากบ้าน แถมคราวนี้ยังไม่รู้วันเดือนจะคืนถิ่น เธอต้องฟังเพลงไทยเดิมอีกเพื่อคลายเหงาหรือไม่


แต่เชื่อว่า หลายคนอาจคิดย้อนเวลาแทนเธอว่า หากไม่มาเส้นทางนี้ ปูจะไปทางไหน?


ย้อนไปตั้งต้น หลังจากเรียนปริญญาโทจากอเมริกาตามที่กล่าวไว้ ปูก็มีชีวิตที่เดินตามสเต็ปทายาททางธุรกิจของ "พี่ษิณ" ที่หันหลังให้แก่อาชีพพ่อค้าในเมืองเชียงใหม่ มาดูดาวที่กรุงเทพฯ

ช่วงปี 2534ยิ่งลักษณ์เริ่มเข้าทำงานที่ บริษัท ชินวัตร ไดเร็กทอรี่ส์ จำกัด (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เทเลอินโฟมีเดีย จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่ง "พนักงานฝึกหัด" ด้านการตลาดและการขายแต่เพียงปีเดียว เธอก็ได้เลื่อนเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ จนกระทั่งสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายผลิตในเวลาต่อมา

ปี 2537 สาวปูเลื่อนขึ้นมาเป็นผู้จัดการทั่วไปของ บริษัท เรนโบว์ มีเดีย ซึ่งเดิมเป็นแผนกงานโฆษณา ของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ไอบีซี; ปัจจุบันคือทรูวิชั่นส์) โดยที่นี่ ตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกจากไอบีซี คือ รองกรรมการผู้อำนวยการ

ช่วงปี 2538 ปูสมรสกับ อนุสรณ์ อมรฉัตรแม้ว่าทั้งคู่จะมิได้จดทะเบียนสมรส แต่ก็ครองรักกันจนมีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคนคือ ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์

ต่อมาปี 2545 ปูโดดมาช่วยงานพี่ชายในธุรกิจไร้สาย โดยดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และรองกรรมการผู้อำนวยการสายงานตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ "เอไอเอส" ในเครือชิน คอร์ปอเรชั่น โดยขึ้นถึงประธานกรรมการบริหารบริษัทเป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่จะมีการขายหุ้นกลุ่มบริษัทชินคอร์ปให้แก่เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ของรัฐบาลสิงคโปร์

ที่สุดปี 2549 ปูไปนั่งเก้าอี้ ประธานกรรมการบริหารบริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขณะที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ตอนนั้นปูยังดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ช่วงปี 2550 อีกด้วย

หากจำกันได้ ช่วงรอยต่อเวลานั้นเอง ปู ยิ่งลักษณ์ เริ่มเจอกระแสคำถามถึงก้าวย่างทางการเมืองแทนพี่ชาย ซึ่งเธอก็ปฏิเสธมาตลอด

แต่แล้ว ปี 2554 เมื่อกระดานของฝั่งพรรคทักษิณ เหลือน้องสาวคนนี้เป็นหมากสุดท้ายของเกมก็ว่าได้ เธอจึงยอมรับที่จะลงเล่นในตำแหน่งตัวแทนพรรคเพื่อไทยชิงเก้าอี้นายกฯ

ที่สุดอะไรก็เกิดขึ้นได้ และเกิดขึ้นแล้ว เมื่อปูลงพื้นที่หาเสียงเพียง 49 วัน ก็เอาชนะการเลือกตั้งมาด้วยวัยเพียง 44 ปี จัดเป็นนายกฯ ไทยที่อายุน้อยที่สุดในรอบ 60 ปี!

แต่แล้ว อย่างที่รู้กันในวันนี้ เมื่อความหวังที่จะช่วยงานธุรกิจ เปลี่ยนมาเป็นการช่วยงานการเมือง กลับทำให้เธอต้องตกที่นั่งเดียวกันกับพี่ชายในที่สุด

หลายคนจึงอดคิดแทนสาวปูไม่ได้ว่า ถ้ามีโอกาสนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปในวันที่เธอยังมีสิทธิ์เลือกปูจะเลือกช้อยส์ไหน ระหว่าง"ทำธุรกิจ" กับ "ช่วยพี่"

คำถามนี้บางคนตอบได้ทันทีว่า หากดูจากเส้นทางชีวิตของ "ปู" ตามข้างต้น ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใช่คนที่มีสิทธิ์เลือกมาตั้งแต่ต้นแล้ว

แต่สิ่งที่เธอเลือก มีเพียงโจทย์เดียวที่ตั้งไว้ คือ "ช่วยพี่" เท่านั้น!!!

-------

ขอบคุณ: ภาพและข้อมูลจาก Generation ฉบับเดือนกรกฎาคม 2533คอลัมน์ Taste

logoline