svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ร่ายยาวมหากาพย์โกงข้าว จับ 9 ประเด็นโกง ทำชาติเสียเปรียบ

23 กันยายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"หมอวรงค์" ร่ายยาวมหากาพย์โกงข้าว "อวสานจีทูจี ตอนที่ 4" จับ 9 ประเด็นโกง - ทำชาติเสียเปรียบ ซ้ำข้าวไม่ได้ถูกส่งออก แต่เวียนเทียนขายในประเทศ

          น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว "Warong Dechgitvigrom"มหากาพย์โกงข้าว ตอน อวสานต์จีทูจี(4) โดยมีข้อความระบุว่า ชำแหละสัญญาจีทูจีฉบับที่ 1 การทำสัญญาระบายข้าวแบบจีทูจี สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้มีการทำสัญญาทั้งหมด 4 ฉบับ โดยทำกับบริษัทกว่างตง 3 ฉบับ และบริษัทไห่หนาน 1 ฉบับ โดยรายละเอียดของสัญญาฉบับที่ 1 มีดังนี้ สัญญาฉบับที่ 1ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2554 กับบริษัทกว่างตง ขอซื้อข้าวเก่าเหมาทั้งหมด 2.195 ล้านตัน ซื้อในราคา ณ หน้าคลังถัวเฉลี่ยตันละ 10,000 บาท ชำระด้วย L/C มีข้อตกลงว่าต้องใช้เพื่อการบริโภคในประเทศผู้ซื้อเป็นหลัก แต่ผู้ซื้ออาจจัดส่งข้าวให้ประเทศที่สามในรูปการค้าหรือบริจาค กำหนดส่งมอบ 10 เดือน

          น.พ.วรงค์ ระบุด้วยว่า  การลงนามสัญญาฉบับที่ 1 เป็นการลงนามที่ฝ่ายไทยเสียเปรียบ และไม่มีประเทศไหนทำกัน โดยขอชี้ให้เห็นข้อเสียเปรียบเป็นรายประเด็น รวม 9 ประเด็น ดังนี้  1.การขายเหมาข้าวเก่าทั้งหมดในราคาเฉลี่ยที่ตันละ 10,000 บาท ทำให้ผู้ซื้อเลือกเอาข้าวราคาสูง เช่น ข้าวหอมมะลิที่ราคาตลาดขณะนั้นประมาณตันละ 32,000 บาท เห็นได้ว่าตั้งแต่ 18 ตุลาคม 2554 ถึง 4 พฤศจิกายน 2554 ข้าวหอมมะลิถูกซื้อเอาไปจนหมดคลัง 2.ก่อนลงนาม มีการบันทึกชัดเจนว่า การขายข้าวเหมาทั้งหมดราคาเฉลี่ยตันละ 10000 บาท  และบันทึกก็ระบุคำนวณราคาเฉลี่ยข้าวทุกชนิดที่ตันละ 13,941 บาท ทำให้รัฐสูญเสียทันที 6,350 ล้านบาท นี่ยังไม่นับที่เอาข้าวไปไม่หมด 3.ในบันทึกมีการระบุว่าถ้าหากข้อมูลการเจรจาแพร่ออกสู่สาธารณชน อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ประกอบการว่าขายราคาต่ำเกินไป ไม่เหมาะสมกับตลาด แสดงว่าทั้งๆที่รู้ว่าไม่ถูกต้องก็ยังทำ

ร่ายยาวมหากาพย์โกงข้าว จับ 9 ประเด็นโกง ทำชาติเสียเปรียบ

          น.พ.วรงค์ ระบุอีกว่า 4.สัญญาลงนามซื้อข้าว 2.195 ล้านตัน แต่ในคลังรัฐบาลมีข้าว 2.188 ล้านตัน เป็นสิ่งผิดปกติของการลงนามสัญญาระหว่างประเทศ 5. เพราะสัญญาไม่มีการกำหนดโทษ จากสัญญาฉบับที่ 1 ซื้อข้าวปริมาณ 2.195 ล้านตัน แต่รับข้าวไปเพียง 1,882,500 ตัน  6.การให้ผู้ซื้อสามารถนำข้าวไปประเทศที่สามในรูปของการค้า ทำให้ไทยเสียประโยชน์ 7.ข้อตกลงที่กำหนดว่าต้องใช้เพื่อการบริโภคของประเทศผู้ซื้อเป็นหลัก (ประเทศจีน) สุดท้ายข้าวเหล่านี้ไม่ได้ส่งไปจีน แต่เวียนขายในประเทศไทย 8.การซื้อข้าวในราคาหน้าคลัง (ผู้ซื้อไปขนข้าวเองที่คลังที่ซื้อ) เป็นสิ่งที่ไม่ปฏิบัติในการระบายแบบจีทูจี และ9.เป็นการทำสัญญาที่ผิดปกติ ที่ไม่ได้ขออนุมัติกรอบการเจรจาก่อน

          อดีตส.ส.พิษณุโลก ยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้ ได้มีการลงนามแก้ไขสัญญาเพื่อเอื้อประโยชน์ และง่ายแก่การทุจริตหลายครั้ง  เช่น วันที่ 12 ตุลาคม 2554 มีการแก้ไขสัญญาฉบับที่ 1  เพิ่มวิธีชำระเงินอีก 2 วิธีคือ แคชเชียร์เช็ค และโอนเงินผ่านธนาคาร เท่ากับเปิดช่องให้ใช้แคชเชียร์เช็ค และนำไปสู่การเวียนเทียน ขายข้าวในประเทศ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 แก้ไขสัญญาฉบับที่ 1 บริษัทกว่างตงขอผ่อนผันการรับมอบข้าวในช่วง วันที่ 6 ตุลาคม2554 ถึง 15 มกราคม 2555 จากต้องรับมอบข้าวอย่างน้อยเดือนละ 200,000 ตัน เป็นไม่กำหนดปริมาณขั้นต่ำ เนื่องจากผลอุทกภัย วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555  แก้ไขสัญญาฉบับที่ 1 เรื่องปริมาณการรับมอบข้าวจากเดือนละ 200,000 ตัน เป็นเดือนละ 180,000 ตัน ขยายเวลารับมอบข้าวออกไปอีก 3 เดือน หลังจากนายมนัส สร้อยพลอยเกษียณอายุราชการ นางปราณี ศิริพันธ์ มาดำรงตำแหน่างอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายบุญทรงยังได้เห็นชอบแก้ไขสัญญาฉบับที่ 1 อีกสองครั้งคือวันที่  20 พฤศจิกายน 2555 และ 28 ธันวาคม 2555 เพื่อขยายเวลารับมอบข้าว แต่สุดท้ายก็รับมอบข้าวไม่หมด

logoline