ที่ผ่านมา ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคนก็ได้ออกมาชี้แจงไปบ้างแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปในแนว "ปฏิเสธความรับผิดชอบ" เช่น พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบกในยุคที่มีการจัดซื้อเรือเหาะ ก็บอกว่าพร้อมให้ตรวจสอบ แต่จะตรวจสอบตนคนเดียวไม่ได้ เพราะกระบวนการจัดซื้อเกี่ยวข้องหลายคน ส่วนการประเมินความคุ้มค่า ไม่ใช่ใครก็ประเมินได้ แต่ต้องให้กองทัพในฐานะ "ผู้ใช้งาน" เป็นผู้ประเมิน ต่อมาก็มี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีในช่วงที่มีการจัดซื้อเรือเหาะ ก็ออกมาชี้่แจงว่า ประเด็นการทุจริตนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าไม่มีมูล ส่วนเรื่องความคุ้มค่า เป็นหน้าที่ของกองทัพบกที่ต้องชี้แจง
ล่าสุดนักข่าวได้ไปสอบถามผู้ที่น่าจะเกี่ยวข้องอีกคนหนึ่ง คือ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ด้วย ท่านรองนายกฯประวิตร บอกแบบนี้ค่ะ "เรื่องการยุติการใช้เรือเหาะในภารกิจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้ไปถามกองทัพบก และ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เพราะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ส่วนผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสั่งให้เลิกใช้ เพราะเป็นข้อพิจารณาของกองทัพบกเอง" นี่เป็นคำตอบของท่านรองนายกฯประวิตร
นักข่าวก็ถามต่อถึงการที่มีบางฝ่ายเคลื่อนไหวยื่นเรื่องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบความโปร่งใสในการจัดซื้อ ประเด็นนี้ พลเอกประวิตร ตอบว่า ก่อนหน้านี้ทาง ป.ป.ช.ก็ได้รตรวจสอบตามข้อเท็จจริงไปแล้ว (ซึ่งท่านประธาน ป.ป.ช.ออกมาบอกก่อนหน้านี้ว่ามีมติยกคำร้อง เพราะข้อกล่าวหาไม่มีมูล) ฉะนั้นหากมีหลักฐานใหม่ หรือพบสิ่งใดใหม่ ก็ต้องให้เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.ที่จะพิจารณา