พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการปฏิบัติและดูแลในภาพรวมภายใต้การใช้กฎหมายปกติ โดยมีกระทรวงมหาดไทยและ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จะเป็นส่วนให้การสนับสนุน ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าจะมีประชาชนมาร่วมรับฟังความคืบหน้าของคดีในวันดังกล่าวประมาณ 3,000 - 3,500 คน ซึ่งอาจจะทำให้พื้นที่โดยรอบเกิดความไม่สะดวกในบางเรื่อง อาทิ ปัญหาการจราจร สภาพอากาศ ความแออัดของพื้นที่ รวมทั้งกระบวนการอ่านคำพิพากษาอาจต้องใช้ระยะเวลานาน ซึ่งเลขา คสช.มีความห่วงใยในข้อจำกัดดังกล่าว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเตรียมการรองรับให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ รวมทั้งการกำกับดูแลไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายในทุกด้าน เพื่อให้ภาพรวมของเหตุการณ์ มีความเรียบร้อยที่สุด ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะไม่มีการจัดประชุมในเรื่องดังกล่าวอีกแล้ว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ เลขา คสช. ยังได้กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยสานต่อการสนับสนุนงานบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการดูแลคลังข้าวสารในสต็อกของรัฐ การร่วมตรวจสอบการระบายข้าวและการช่วยควบคุมการขนย้ายข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภค ให้เป็นไปตามกลไกและมาตรการที่ภาครัฐกำหนด มีความโปร่งใส สังคมเกิดความเชื่อมั่น ซึ่งขณะนี้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1 และ 3 ได้เข้าช่วยสนับสนุนการขนย้ายข้าวแล้วในพื้นที่ 9 จังหวัด ปริมาณข้าวที่ขนย้ายแล้ว 45 ล้านตันเศษ คงเหลือข้าวรอการขนย้ายอีก 22 ล้านตันเศษ