svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นายกฯ ขอโทษที่ทำให้ยุ่งยาก เรื่องจัดระเบียบ "แรงงานต่างด้าว"

07 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ประยุทธ์" แจงยิบแก้ปมแรงงานต่างด้าว ยันต้องเร่งทำสางปมค้ามนุษย์-แรงงานเด็ก-แรงงานทาส ขอโทษที่ทำให้ยุ่งยาก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผ่านรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า เรื่องแรงงานต่างด้าว วันนี้ตนดีใจที่คนไทยตื่นตัวในเรื่องกฎหมายและการปฏิรูปมากขึ้น  ซึ่งตนอยากให้เข้าใจตรงกันว่า ปัญหาแรงงานต่างด้าวเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาในเรื่องของกฎหมายค้ามนุษย์ เราแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนในเวทีระหว่างประเทศว่า จะป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ให้ถึงที่สุด โดยกฎหมายนี้มีเรื่องใหญ่รวมอยู่ด้วยกัน อาทิ การค้ามนุษย์ การประมงผิดกฎหมาย แรงงานเด็ก แรงงานทาส รวมทั้งแรงงานต่างด้าว ซึ่งเราต้องเร่งดำเนินการอยู่ในปัจจุบันนี้ เพื่อประเทศไทยของเราเอง การแก้ปัญหาพยายามอย่างต่อเนื่องมา 3 ปี รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้มีการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติไปแล้ว ราว 3 ล้านคน แต่อุปสรรคสำคัญคือการพิสูจน์สัญชาติ โดยประเทศต้นทาง ทำให้ยังคงเป็นปัญหาอยู่และก็ได้ผ่อนผันให้มาโดยตลอด หากยังพิสูจน์สัญชาติไม่ได้ ก็ให้ถือบัตรสีชมพูไปพลางก่อน "เรื่องนี้ขอให้พิจารณาด้วยใจที่เป็นกลางอย่ามองปัญหาในเชิงธุรกิจแต่เพียงด้านเดียว เราต้องพึ่งแรงงานต่างด้าว หากทุกงานมีคนไทยทำเองหมดเราก็คงไม่ต้องไปพึ่งใคร แต่วันนี้คนไทยเราทำงานประเภทใช้แรงงานลดลงทุกวัน และเหลือน้อยมาก บางประเภทแทบไม่มี จึงเป็นเหตุที่เราต้องทำความร่วมมือกับต่างประเทศ มีข้อตกลงกัน ซึ่งมีความยุ่งยากมากมาย มีระเบียบ มีขั้นตอน ทั้งกฎหมายในประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งปัญหาในเรื่องการทุจริต ปัญหาด้านความมั่นคง ปัญหาการค้ามนุษย์ ภาระทางสังคม การศึกษา สาธารณสุข การถือสัญชาติเด็กที่เกิดจากแรงงานต่างด้าว วันนี้ผสมปนเป เชื่อมโยงกัน ทำให้เป็นการซ้ำเติมปัญหา ถ้าเราไม่แกะออกมา การแก้ไขปัญหาเหล่านั้นไม่สามารถทำได้เพียงด้านใดด้านหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว หวังแรงงานต่างด้าวไม่ต้องหลบซ่อนอีก ย้ำให้สวัสดิการตามหลักสากล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราต้องดำเนินการจัดระเบียบใหม่ทั้งหมด หากทำได้เรียบร้อยเป็นระบบก็จะบริหารจัดการได้อย่างยั่งยืน ตรงตามความต้องการตลาดแรงงานในประเทศที่เราต้องการ ทุกภาคการผลิตและบริการไม่มีการแย่งงาน ไม่มีการหนีงาน เปลี่ยนงาน เปลี่ยนนายจ้าง ทุกฝ่ายก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆแล้ว ซึ่งคนที่ไม่เคยรู้ควรเปิดหูเปิดตาไม่ใช่หลับตาปิดใจ วิพากษ์วิจารณ์โดยปราศจากข้อมูล เราต้องเอาความจริงมาพูด มาเสนอแนะกัน ให้ความรู้ด้วยความจริงกับสังคม ว่าถ้าหากว่าไม่มีการให้แรงงานเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานเลย ก็จะไม่มีใครทำงานในโรงงานต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไม่หยุดชะงัก อย่าไปพูดจาให้มันเสียหาย "เมื่อเขาเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจเราแล้ว แรงงานเหล่านี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคมของเรา ซึ่งก็ต้องได้รับสวัสดิการตามสมควร ที่รัฐก็ต้องดูแลให้เป็นไปตามหลักสากลด้วย ซึ่งมีกระบวนการค่าใช้จ่ายตามปกติ ไม่ต่างอะไรจากคนไทยที่ต้องไปทำงานในประเทศต่างๆทั่วโลก เราจะเอาแต่ได้โดยไม่ยอมเสียอะไรเลย คงเป็นไปไม่ได้ แต่ต้องไม่ใช่การเสียความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งรัฐบาลก็จะไม่ยอมปล่อยปละละเลย ให้เป็นปัญหาคาราคาซังอีกต่อไป ให้เวลาไปแล้วต้องไปหาวิธีการดำเนินการกันให้ได้ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ผู้ประกอบการ แรงงาน ก็ต้องร่วมมือ หลายประเทศเขาก็ทำแบบนี้มาก่อน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว โวปี 57 จดทะเบียน 1.3 ล้านคน ทำสำเร็จแล้ว สวดข้าราชการ-นายจ้าง-นายหน้า ยังทุจริต ประกาศไม่ชะลอขึ้นทะเบียนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การที่เราเคยเปิดให้จดทะเบียนไปแล้ว เมื่อปี 2557 กว่า 1.3 ล้านคน เป็นเพียงความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่แรงงานที่ไม่เข้ามาอยู่ในระบบและแรงงานที่เข้าออกหมุนเวียนมาใหม่ ด้วยช่องทางที่หลีกเลี่ยงกฎหมายของข้าราชการที่ทุจริต รวมถึงนายหน้าและนายจ้างที่ทุจริต ก็สร้างปัญหาอยู่อย่างต่อเนื่อง นำไปสู่วงจรแรงงานทาส ค้ามนุษย์ ที่ส่งผลกระทบในภาพรวมของประเทศ ผู้ประกอบการเอง ก็ประสบปัญหาการเปลี่ยนงานของแรงงานต่างด้าวอยู่ตลอดเวลา ก็ขอทำให้มันถูกต้อง มันจะได้ชัดเจนขึ้น บางครั้งเสียเงิน เสียเวลา ฝึกฝนจนใช้งานได้ ก็ถูกดึงไปใช้ เพราะเราไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน มันก็เลยเกิดความไม่เป็นธรรมต่อนายจ้างเดิม "การเข้ามาในประเทศที่ไม่ผ่านกระบวนการพิสูจน์สัญชาติจากประเทศต้นทาง เราเคยชะลอไปได้ วันนี้ไม่ได้แล้ว หากไม่มีหลักฐานทางราชการที่ถูกต้องในการเข้ามาทำงาน เราจะไม่สามารถควบคุม หรือจัดระเบียบอะไรได้เลย จากการที่นำเข้าผ่านแนวชายแดนเข้ามา ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก ที่หลีกเลี่ยงไม่อยู่ในระบบเหล่านี้ ซึ่งได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านของเรา ช่วยกันแก้ปัญหา เราแก้คนเดียวไม่ได้ ช่วงที่ผ่านมาได้มีการจัดชุดพิสูจน์สัญชาติของต้นทางเข้ามาดำเนินการในบ้านเรา ในระหว่างที่ผ่อนปรนให้มีการใช้บัตรชั่วคราว แต่ห้ามย้ายงาน ย้ายพื้นที่ แต่ก็มีลักลอบอยู่ ต้องยอมรับความจริง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ก็มีข้อตกลงทำ หรือเอ็มโอยู กันระหว่าง 3 ประเทศได้ระบุไว้ว่า ต้องมีการพิสูจน์สัญชาติที่ชายแดนประเทศต้นทางที่มีสำนักงานอยู่เท่านั้น ซึ่งมันควรจะเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ผ่านมามันปล่อยเข้ามาหลายปี วันนี้มันก็ต้องเข้ามาสู่กระบวนการที่มันถูกต้อง ก่อนที่จะเข้ามาในปลายทางของแต่ละประเทศ ก็มีการพิสูจน์สัญชาติมาก่อน ดังนั้นเมื่อเรามีพ.ร.ก.แรงงานต่างด้าวออกมา ก็ต้องปฏิบัติตาม แต่ปัญหาเราอยู่ตรงที่แรงงานที่เข้ามาอีกบางส่วนยังคงไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา บางส่วนทำแล้วไม่สมบูรณ์ ก็คงต้องไปดำเนินการให้เรียบร้อยที่ชายแดน 
ขอโทษที่ทำให้ยุ่งยาก แต่จำเป็นต้องทำให้ถูกกม. "เราทำครั้งนี้เรียบร้อยก็จะไม่มีปัญหาอีกต่อไป ก็ต้องขออภัยในความยุ่งยากด้วย เพื่อจะได้เข้ามาอย่างถูกต้อง เราไม่สามารถจะอนุญาตให้เข้ามาก่อน ให้มาขึ้นทะเบียนแล้วมาพิสูจน์สัญชาติภายหลังได้อีกต่อไป มันจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการทำผิดกฎหมายอีก แล้วต้องไปพันกับค้ามนุษย์ พันกับปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือไอยูยู แล้ววันหน้าถ้ายังคงมี แล้วเขาไม่ซื้อสินค้าอื่นจะเป็นอย่างไร คนที่ออกมาเรียกร้อง ต้องเข้าใจประเด็นนี้ด้วย ผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของท่าน แต่ท่านต้องเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประเทศด้วย วันนี้เราพยายามแก้ปัญหาที่ก่อนหน้านี้ที่เราเข้ามาให้ได้ในประเด็นแรงงาน เป็นเรื่องสำคัญและเป็นวาระสำคัญของชาติ เราจะต้องแก้ปัญหาให้ได้ ยอมรับไม่ได้อีกต่อให้มีแรงงานผิดกฎหมาย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ขีดเส้น 6 เดือนต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่ยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง เราให้เวลาไปเกือบ 6 เดือน หรือภายในสิ้นปีนี้ตามที่ขยายไปแล้วให้ไปดำเนินการให้ครบ ท่านต้องหาวิธีดำเนินการให้ได้ ภาครัฐ กระทรวงแรงงาน สำนักงานจัดหางาน ผู้ประกอบการ บริษัท ต้องร่วมมือกันว่าจะหากลไกมาตรการอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบจากการประกอบการ ถ้าท่านบอกว่าทำแบบนี้แล้วเกิดผลกระทบกับการประกอบการแล้วจะเป็นอย่างไร มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้เหมือนเดิม เพราะอย่าลืมว่าที่ผ่านมาท่านทำผิดกฎหมายมาเป็นจำนวนมากและนานพอสมควร ในกลุ่มที่ดีตนขอชมเชย แต่คราวนี้ปัญหาก็คือในกลุ่มที่ลักลอบ แย่งงาน แย่งคนงานด้วยการชักชวนให้ย้ายงานทั้งที่เขาลงทุนไปแล้ว ซึ่งเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้ต้องปรับตัวเองให้ได้ "ที่เป็นกังวลตอนนี้ก็คือลูกจ้างที่ท่านไว้ใจ อาทิเช่น ดูแลบ้าน แม่บ้าน เลี้ยงลูก หรือทำงานอะไรต่างๆ อาจจะต้องให้กระทรวงแรงงานระบุให้ชัดเจนว่าพวกคนเหล่านี้ออกไปในส่วนของแรงงานประเภทเหล่านี้ แล้วให้กลับมาทำงานเหมือนเดิม ให้ระบุไว้มีบัตรเฉพาะออกไป ก่อนออกไปก็มีบัตรเฉพาะว่าพวกนี้ออกไปแล้วกลับมาทำงานเดิมจะทำได้หรือไม่ ก็ให้มีลายเซ็น มีการยินยอม รับรองเงื่อนไข จากทั้ง 2 ฝ่ายให้ชัดเจน ทั้งผู้ประกอบการและแรงงาน มันต้องมีมาตรการเฉพาะออกมาเป็นประเภท มีทั้งแรงงานที่จะเข้ามาทำงานเป็นรายปี และแรงงานอีกประเภท คือแรงงานที่เข้ามาไปเช้า-เย็นกลับ อันนี้ก็ต้องตกลงต่างหาก อย่าเอามาปนกัน ส่วนนั้นก็ต้องเอาเข้ามาและออกไป ทำงานในพื้นที่แนวชายแดนไม่ให้เกิดผลกระทบกับการประกอบการในพื้นที่ชายแดน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ส่วนราชการให้ไปคิดมาตรการให้มันชัดเจนเกิดขึ้น ในเรื่องของที่มีการเรียกร้องให้ดูแลหรือปรับปรุงในเรื่องค่าปรับต่างๆ รัฐบาลพยายามจะหาทาง วิธีการทางด้านกฎหมายว่าจะทำได้อย่างไรที่ค่าปรับต่างๆให้มีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ก็กำลังดำเนินการอยู่นะครับ ก็จะใช้เวลาที่มี 6 เดือนอยู่นี้แก้ปัญหาให้ไดมากที่สุดเพื่อลดกระทบ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้สำนักจัดหางานเถื่อน นายหน้า หรือบริษัทไม่สุจริตเข้ามาแสวงประโยชน์ จากแรงงานเหล่านี้จะต้องถูกลงโทษเด็ดขาด สำหรับผู้ที่ค้ามนุษย์ก็ดำเนินการเต็มที่ ทั้งโทษอาญา โทษอื่น "สำหรับขบวนการค้ามนุษย์ หากการล่อลวงว่าจะให้รายได้ที่ดีกว่าแล้วย้ายคนงานเหล่านี้ไปทำงานที่อื่นเอาผลประโยชน์ แล้วนายจ้างเดิมที่เขาเสียค่าใช้จ่ายเหล่านี้เขาจะทำอย่างไร ก็อย่าเห็นแก่ตัวแบบนั้น ทำให้เกิดปัญหากับนายจ้างเดิม แรงงานใหม่บางทีไปถ้าถูกกฎหมายก็แล้วไปย้ายงานได้แต่ถ้าย้ายงานไม่ได้ ก็ผิดกฎหมายลักลอบเข้าเมือง ลักลอบทำงานผิดกฎหมายอีก มันพันไปทั้งหมดทุกอย่างต้องอาศัยความไว้วางใจกันและใช้สติปัญญาในการแก้ไข้ปัญหา ต้องเสียสละกันบ้าง บางคนก็กำไรมามากแล้วในการใช้แรงงานผิดกฎหมาย วันนี้พอขาดทุนก็เรียกร้อง ก็ขอบคุณสำหรับผู้ที่ประกอบการดีๆทั้งหมด สำหรับผมคิดว่ามีจำนวนมากกว่าผู้ประกอบการที่ไม่ถูกต้อง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้ทันต่อการดำเนินการในช่วงผ่อนผัน ตามกรอบเวลา 6 เดือนข้างหน้า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก็ขอให้กระทรวงแรงงานจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจ เพื่ออำนวยการ บริหารจัดการ สำหรับการทำงานของคนต่างด้าวให้ถูกต้องตามพ.ร.ก.แรงงานต่างด้าว โดยจัดกลุ่มดังนี้ 1.กลุ่มที่มีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) แต่ผิดนายจ้าง 2.กลุ่มที่ตรวจสัญชาติแล้ว มี Passport มี VISA มี CI (เอกสารรับรองบุคคล) แล้ว แต่ยังไม่ได้ขอใบอนุญาตทำงาน ทั้ง 2 กลุ่มให้สามารถดำเนินการให้ถูกต้องได้ทันที ที่ศูนย์เฉพาะกิจสำนักงานจัดหางานทุกจังหวัดและกรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า 3.กลุ่มที่มีการนำเข้าตาม MOU ไม่ได้เป็นปัญหา สามารถดำเนินการได้ตามปกติ และ4.กลุ่มที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ให้ทั้งนายจ้าง และลูกจ้าง มาพบเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์เฉพาะกิจดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง ระหว่าง 24 กรกฎาคม-7 สิงหาคม กรณีที่ยังมีข้อสงสัยสามารถสอบถามที่สายด่วน 1694

logoline