นายกฯ ชูยุทธศาสตร์ดึงนักลงทุน

วันนี้นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำทีมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ พบผู้ลงทุนทั่วโลกในงาน Thailands Big Strategic Move เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และเป็นการฉายภาพรวมแผนยุทธศาสตร์ชาติเพื่อมุ่งไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตจะวันออก หรืออีอีซี มุ่งหวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน
นับเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำทัพทีมคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี //นายอภิศักดิ์ ตันติวรวง์ รัฐมนตรีคลัง และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นำเสนอความน่าสนใจของประเทศและตลาดทุนไทยในงาน Thailands Big Strategic Move
โดยนายกรัฐมนตรี บอกว่า วันนี้เป็นโอกาสที่ภาครัฐจะได้แสดงทิศทางการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งขณะนี้รัฐได้วางยุทธศาสตร์ชาติในระยะ 20 ปี (2560-2579) แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการพัฒนาศักยภาพของประเทศ สำหรับคำว่าไทยแลนด์ 4.0 เน้นการสร้างคุณค่าในด้านต่างๆ เช่น การเตรียมความพร้อมบุคลากร การเร่งพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ การเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต การสร้างความเข้มแข็งให้วิสาหกิจไทย รวมไปถึงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญา การเสริมสร้างความแข็งแกร่งเศรษฐกิจของประเทศ สร้างสังคมที่เป็นธรรม และการบูรณาการอาเซียนเชื่อมไทยสู่ประชาคมโลก และในระยะ 2ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้นและสังคมมีความเข้มแข็ง โดยปีนี้มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ในระดับร้อยละ 3.3-3.8 จากปีก่อนที่เติบโตร้อยละ 3.2 จึงอยากให้นักลงทุนทุนมั่นใจว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นและความพยายามที่จะเดินหน้าพัฒนาประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง และมีขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศ
ด้านรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ บอกว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตได้ที่ร้อยละ 3.5 และเชื่อว่าภาคการส่งออกของไทย หากไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นจะสามารถเติบโตได้ถึงตัวเลข 2 หลัก ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยขณะนี้จะฟื้นตัว แต่โจทย์ใหญ่ที่สำคัญคือ จะทำอย่างไรให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน และหลุดพ้นจากกับดักความยากจน และครั้งนี้จะถือเป็นจุดเปลี่ยนยุทธศาสตร์ประเทศ โดยวางนโยบายเศรษฐกิจ มุ่งสู่การเติบโตอย่างสมดุล , การสร้างมูลค่าจากนวัตกรรม และโดยเฉพาะการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ทั้งการสร้างถนนทางด่วน มอเตอร์เวย์ โครงการรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง การสร้างและพัฒนนาสนามบิน ท่าเรือ และสถานีขนส่งสินค้า ครอบคลุมช่วง5ปีข้างหน้า ผ่านแหล่งเงินทุน 4 แหล่ง ทั้งหมดรัฐบาลต้องการให้ทุกโครงการเริ่มต้นก่อนปลายปีหน้า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
และอีกหนึ่งประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือ การยกเครื่องประสิทธิภาพและการสร้างความโปร่งใสภาครัฐ โดยเฉพาะการขจัดปัญหาคอร์รัปชั่น