กลุ่ม NGO จัดรำลึก 60 วัน "ชัยภูมิ ป่าแส"

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 17 พ.ค.2560  ที่บริเวณด่านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่  มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมกับสโมสรพื้นที่นี้...ดีจัง และกลุ่มรักษ์ลาหู่ จัดกิจกรรม รำลึก 60 วัน แห่งการจากไปของนายชัยภูมิ ป่าแส หลังจากที่นายชัยภูมิ ถูกวิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ บริเวณด่านรินหลวง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 โดยแจ้งข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ขัดขืนการจับกุม และพยายามใช้วัตถุระเบิดทำร้ายเจ้าพนักงาน ซึ่งระยะเวลาผ่านมา 2 เดือน แต่ความคืบหน้า ความจริง และความเป็นธรรมของคดีนายชัยภูมิ ป่าแส ยังไม่ปรากฏ
น.ส.จันทนา แซ่เอี๊ยบ ตัวแทนสโมสรพื้นที่นี้...ดีจัง ทำหน้าที่ประสานงานสื่อมวลชนสัมพันธ์ ในกิจกรรมรำลึก 60 วัน แห่งการจากไปของนายชัยภูมิ ป่าแส เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการเรียกร้องความจริง และคืนความเป็นธรรม เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมา ยังไม่มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงของพยานหลักฐาน ในเหตุการณ์วิสามัญ ในขณะที่ฝ่ายรัฐให้ข้อมูลต่อสาธารณะที่มีลักษณะกล่าวหาให้ร้าย และขาดการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน จึงต้องมีการเคลื่อนไหวเพื่อติดตามความคืบหน้าการทำสำนวนส่งฟ้องอัยการของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในคดี รวมทั้งการพิจารณาของอัยการที่จะส่งสำนวนฟ้องศาลต่อไป เพื่อให้การดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างยุติธรรมให้มากที่สุด ประกอบกับเพื่อต้องการคลายความสงสัยของสังคมและครอบครัวของนายชัยภูมิ
นอกจากนั้นการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาส่วนหนึ่งเพื่อต้องการทำตามความต้องการของนายชัยภูมิ ที่ต้องการสร้างบ้านพักพิงและศูนย์กิจกรรมสำหรับเด็กๆ ลาหู่ และเด็กชนเผ่าที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า สำหรับกิจกรรมนี้จะเป็นกิจกรรมสานฝันของนายชัยภูมิที่ต้องการให้เด็กๆ มีสถานที่อยู่รวมกับและห่างไกลยาเสพติด พร้อมทั้งต้องการให้เดกเหล่านี้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ จึงเกิดการระดมทุนขึ้นมาเพื่อจะสานฝันให้นายชัยภูมิ ป่าแส
ด้านนายศักดิ์ดา แสนมี่ ตัวแทนเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เครือข่ายได้มีการรวมตัวทำกิจกรรมเพื่อชุมชนและสังคม ในวันนี้ได้เข้ามาร่วมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมรำลึก 60 วัน นายชัยภูมิ ป่าแส ในเรื่องของรายละเอียดทางคดีได้มีการแต่งตั้งทนายความเข้ามาดำเนินการแล้ว ในเรื่องของกิจกรรมต่างๆ ตั้งใจมาร่วมพิธีกรรมที่ทางญาติและชุมชนกองผักปิ้งได้จัดขึ้นมาเพื่อแสดงพิธีกรรมที่เชิญดวงวิญญาณมาร่วมรับประทานอาหาร และมาช่วยรับรู้และติดปัญหาเพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างเป็นธรรม
นายนลธวัช มะชัย ผู้ประสานงานกิจกรรมรำลึก 60 วัน นายชัยภูมิ ป่าแส กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นมาในครั้งนี้ เพื่อต้องการทวงความจริงและคืนความเป็นธรรมให้กับชัยภูมิ ป่าแส  60 วันผ่านไป ไม่อยากที่จะให้เรื่องนี้เงียบหายไป หากเรื่องนี้เงียบเชื่อว่าเรื่องอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก็จะเงียบไปด้วย โดยการจัดกิจกรรมขึ้น 2 จุด คือที่บริเวณด่านรินหลวง  และ จุดที่ 2 จัดที่ในหมู่บ้านกองผักปิ้ง
น.ส.รัตนภรณ์ เจือแก้ว ผู้ประสานงานกิจกรรมรำลึก 60  วัน การจัดกิจกรรมนี้มาเพื่อต้องการสานฝันให้จะอุ๊ หรือ ชัยภูมิ ป่าแส  ที่อยากสร้างศูนย์พักพิงให้กับเด็กๆ ชนเผ่าที่ด้อยโอกาส ได้มีโอกาสเรียนหนังสือและทำกิจกรรมสร้างสรรค์ จึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการให้ทุกคนที่ส่วนร่วมในการสานฝังของนักกิจกรรมชาวลาหู่ที่จากไป และเป็นการรำลึกนายชัยภูมิ ป่าแส ที่จากไปครบ 60 ปี แต่คดีไม่คืบหน้า
สำหรับบรรยากาศการจัดกิจกรรมในพื้นที่ได้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ยังมีชนเผ่าต่างๆ รวมทั้งกลุ่มองค์กรอิสระเดินทาเข้ามาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ช่วงเวลา 12.00 น. ได้ประกอบพิธีชอเชยอ่อจ่าปี้เว หรือ การทำบุญเลี้ยงข้าวคนตาย หลังจากนั้นทำพิธีชอเซยแปห่อตู๊ปาปี้เว หรือ พิธีจุดเทียนอธิษฐานให้คนตาย เพื่อให้ความจริงและความเป็นธรรมปรากฏโดยไว ตามความเชื่อของชนเผ่าลาหู่ รวมทั้งในกิจกรรมยังมีตัวแทนชุมชนบ้านกองผักปิ้ง ออกมากล่าวรำลึก
นายสุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความผู้รับทำคดีนายชัยภูมิ ป่าแส กล่าวว่า ความคืบหน้าทางคดีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนคดีให้กับอัยการแล้ว ซึ่งก่อนหน้าที่จะส่งสำนวนให้อัยการทางทหารได้มีการส่งภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้แต่ยังไม่กล้าเปิดจึงได้ส่งให้ทางพิสูจน์หลักฐาน และยังไม่ทราบว่ากองพิสูจน์หลักฐานสามารถเปิดภาพได้หรือไม่ เป็นแล้วภาพเป็นอย่างไร จึงจะไปขอให้ทางอัยการช่วยติดตามเรื่องภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทางพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบอยู่ เพื่อจะได้นำมาประกอบในสำนวนสอบสวน ซึ่งคดียังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนถือว่ายังไม่จบกระบวนการสอบสวน ซึ่งทางอัยการอาจจะมีดุลยพินิจขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดำเนินการเรื่องภาพวงจรปิดเพิ่มเติม โดยจะให้แม่ของชัยภูมิ เดินทางไปยื่นหนังสือต่ออัยการในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ค.2560)