พ่อใหญ่จิ๋ว...เราจะปรองดองกันอย่างไร

วันนี้ พล.อ.ชวลิต โผล่มาให้เห็นหน้าแล้ว โดยเปิดบ้านให้คนสนิท /ทหาร/นักการเมือง/นักธุรกิจเข้าอวยพรเนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิด 85 ปี พร้อมกับให้กำลังใจ คสช./และเชื่อว่า คสช.จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นได้

สมัยผมเริ่มทำข่าวใหม่ๆเป็นนักข่าวสายทหาร พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นการทำข่าวที่นำมาพิมพ์/เรียบเรียงยากมาก จนนักข่าวบางคนบ่นว่า "บิ้กจิ๋ว พูดไม่รู้เรื่อง"

พล.อ.ชวลิต ถือว่าเป็นทหารการเมือง ต่อเนื่องมาจากยุค พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก

พล.อ.ชวลิตมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ยุค พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และถือเป็นทหารประชาธิปไตย เป็นนายทหารสายเสธฯที่เคยร่วมกับ พล.อ.หาญ ลีนานนท์ อดีตแม่ทัพภาค4 ในการยกร่างนโยบาย 66/23 เปิดทางให้ผู้หลงผิดเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ ต่อสู้กับอำนาจรัฐ ได้กลับตัวกลับใจเข้ามอบตัวกับทางการ และถือเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จยิ่งในรัฐบาล พล.อ.เปรม สงครามในป่าเริ่มสงบลง ช่วงอยู่ในกองทัพ พล.อ.ชวลิต ได้ฉายาว่า "ขงเบ้ง" ส่วนคนอิสานก็จะเรียกว่า พ่อใหญ่จิ๋ว นักข่าวก็เรียกว่า บิ้กจิ๋ว บางคนก็บอกว่า "จิ๋วหวานเจี้ยบ"

พล.อ.ชวลิต เป็นผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุดตั้งแต่ปี 2528 และต้องลาออกปี 2532 เนื่องจากถูกกดดันจากนายทหารรุ่นน้อง เพราะถ้า พล.อ.ชวลิต อยู่จนเกษียณ นายทหารรุ่นน้องหลายรุ่นก็จะเสียโอกาสในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารบก โดยเฉพาะรุ่น 5 ที่จ่อคิวอยู่

พลันที่ พล.อ.ชวลิต ลาออก และประกาศตั้งพรรคการเมืองชื่อพรรคความหวังใหม่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายทหารรุ่น 5 ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารบกแทนตามคาด

พล.อ.ชวลิต ก็เดินตามสายการเมืองกับพรรคความหวังใหม่ สัญลักษณ์พรรคเป็นรูปดอกทานตะวัน

มีพลพรรคมากมายเข้าร่วมงานกับพรรคความหวังใหม่อย่างคึกคัก เช่น วีระ มุสิกะพงศ์ จากพรรคประชาชน ที่เคยยุบรวมกับอีก3พรรค เป็นพรรคเอกภาพ /จาตุรนต์ ฉายแสง บุญชู ตรีทอง เป็นต้น สหายสายป่าไม่น้อยก็เข้าร่วมกับพรรคความหวังใหม่

พล.อ.ชวลิต เดินสายสร้างพรรคทั่วประเทศ ประกาศเจตนารมณ์ทางการเมือง "ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง"

พล.อ.ชวลิต ลงเลือกตั้งครั้งแรกที่จังหวัดนนทบุรี แต่พ่ายแพ้ สุดท้ายก็หิ้วกระเป๋าแจมบอลไปแจ้งเกิดที่นครพนม ซึ่งมีฐานคะแนนหนาแน่น

ไม่ผิดหวังกับสายงานการเมือง พรรคความหวังใหม่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นอันดับ1 มี ส.ส.125 ที่นั่ง พล.อ.ชวลิต ได้ก้าวไปถึงตำแหน่งสูงสุด นายรัฐมนตรีคนที่ 22 ของประเทศไทย

แต่วิกฤติเศรษฐกิจที่ค่าเงินบาทโดนโจมตี จนรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ต้องประกาศลดค่าเงินบาท และอยู่บนเก้าอี้ร้อนไม่ได้ ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในที่สุด

วิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ พล.อ.ชวลิต เดินไปไม่ถึงฝั่งฝันในการสร้างประเทศให้มั่นคง ให้ประชาชนมั่งคั่ง

หลังจากนั้นความหวังใหม่เริ่มถดถอย ลูกพรรคเริ่มวิจารณ์ พล.อ.ชวลิตว่า เหมือนคนขี้ไม่สุด

"ผมเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงประตู จะเข้าหรือจะออกเท่ากัน" วีระ มุสิกะพงศ์ เคยกล่าวไว้

สุดท้ายความหวังใหม่ก็ไปไม่รอด สมาชิกเริ่มทยอยลาออก ส่วนใหญ่ไปร่วมงานก่อสร้างบ้านหลังใหม่กับ "ทักษิณ ชินวัตร" ในนามพรรคไทยรักไทย พล.อ.ชวลิตเองก็บ่ายหน้าไปสนับสนุนทักษิณเช่นกัน

วันนี้ พล.อ.ชวลิต เดินทางมาถึงวัยชราแล้วกับอายุ 85 ปี แต่ยังเวียนว่ายอยู่ในแวดวงการเมือง /วันนี้ก็ไม่ละวางที่จะพูดเรื่องการเมือง

พล.อ.ชวลิต แจกพระเครื่อง และปฏิบัติอย่างนี้มาตลอด แต่วันนี้แจกหนังสือด้วย ขื่อว่า เราจะปรองดองกันอย่างไร

"เราจะปรองดองกันอย่างไร" เป็นหนังสือที่ควรส่งให้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.อ่าน เพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองสมใจปราศถนา