เมื่อเวลา 08.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เตรียมโอนสำนวนคดีของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) แกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบว่า อธิบดีดีเอสไอรายงานชั้นต้นมาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพิจารณาส่งคดีมาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากพบว่ามีอาวุธปืนเอ็ม 16 กระบอกหนึ่ง เป็นปืนที่หายไปเมื่อปี 2553 และคดีนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องการก่อการร้าย จึงจะโอนมาให้ดีเอสไอทำ แต่การโอนที่เป็นทางการตนไม่ทราบว่ามีการโอนแล้วหรือยัง ขอให้รออย่างเป็นทางการก่อน
นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนเรื่องการตรวจค้นอาวุธทั้งหมด ฝ่ายความมั่นคงจะเป็นคนดำเนินการ ตนคิดว่าเขาทำไปตามข้อมูลที่เขามีและการสืบสวนที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อได้ตรวจค้นแล้วพบอาวุธที่อาจไปพัวพันกับคดีพิเศษ จึงคิดว่าควรจะโอนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำ ส่วนเรื่องอื่นๆที่จะขยายต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับผลสอบสวนที่เขากำลังดำเนินการ เมื่อถามถึงการประสานประเทศลาวในการขอตัวโกตี๋นั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องสอบถามทางฝ่ายความมั่นคง
นอกจากนี้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ยังกล่าวถึงการติดตามตัวพระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า ขณะนี้ยังคงกำลังเจ้าหน้าที่ในการควบคุมรอบวัดพระธรรมกายอยู่ โดยให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประเมินสถานการณ์ โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ของผู้ที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งต้องดำเนินคดีต่อไปอย่างเต็มที่และถึงที่สุด ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับการปกครองสงฆ์และพระธรรมวินัยนั้น ขอให้เป็นเรื่องของทางคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ดำเนินการ
เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ได้รับรายงานว่าพระไชยบูลย์ ยังอยู่ในวัดพระธรรมกายหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า คิดว่าไม่ได้อยู่ในวัด และไม่คิดว่าจะเดินทางออกนอกประเทศด้วย เพราะตามข้อมูลยังไม่มีหนังสือเดินทางของพระไชยบูลย์ ทั้งนี้ได้รับแจ้งว่าเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเป็นผู้มีอำนาจในการอนุมัติขอให้มีหนังสือเดินทาง ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดแจ้งว่ายังไม่มีการเซ็นอนุมัติ เมื่อถามว่าได้รับรายงานเรื่อง กระแสข่าวที่ว่าพระไชยบูลย์ ไปอยู่กับลูกศิษย์ที่เป็นนักธุรกิจใหญ่หรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีเอสไอจะต้องไปติดตามหาข่าวเพื่อส่งให้ศาลต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 20 มี.ค. เจ้าคณะจังหวัดและตำรวจได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อไปดูว่าจะยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช.หรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะกรณีนี้มีการตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่ายขึ้นมาเพื่อดูความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัย ทั้งเจ้าคณะจังหวัด ตำรวจภูธรภาค1 พระวินยาธิการ จ.ปทุมธานี และพศ. เหมือนเป็นกองอำนวยการร่วมที่จะต้องดูแลทุกอย่าง