ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ อ.1201/2557 พล.ต.ต.เพ็ชร์ ณ ป้อมเพ็ชร์ โดย น.ส.นพมาศ ณ ป้อมเพ็ชร์ ฐานะผู้อนุบาล เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายศักดิ์ชัย กาย อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารชื่อดังและนักจัดดอกไม้ชื่อดัง เป็นจำเลย ในความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ตามประมวลกฎหมาย 264 , 266 , 268 กรณีเมื่อวันที่ 3 ส.ค.43 จำเลยได้ปลอมใบถอนเงิน ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีลายมือชื่อของโจทก์แล้ว นำไปถอนเงินจำนวน 158,330,000 บาทในรูปของแคชเชียร์เช็คแล้วนำไปเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลย เหตุเกิดที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. โดยศาลชั้นต้น มีคำตัดสินเมื่อวันที่ 31 มี.ค.59 พิพากษาให้ยกฟ้องจำเลย เนื่องจากเห็นว่า พยานโจทก์ที่นำสืบมายังไม่อาจฟังได้ว่าเช็ค และใบถอนเงินเป็นเอกสารปลอม เมื่อโจทก์ไม่สามารถนำสืบได้ว่าเช็คและใบถอนเงินเป็นเอกสารปลอม ดังนั้นไม่ว่าผู้ใดจะนำไปใช้แสดงต่อธนาคารก็ไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 จึงยังไม่ได้ว่าจำเลยปลอมและใช้เอกสารปลอม และที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยปลอมเอกสารโดยการกรอกข้อความลงในถอนเงินที่มีชื่อโจทก์ แต่ก็ไม่ได้บรรยายให้เห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์และไม่ได้ระบุว่าจำเลยนำไปใช้เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือผู้ใดนั้น คำฟ้องโจทก์ จึงขาดองค์ประกอบความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ตามมาตรา 264 วรรคสองด้วย ต่อมาโจทก์ ยื่นอุทธรณ์คดี ซึ่งวันนี้ นายศักดิ์ชัย กาย อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารชื่อดัง เดินทางมาฟังคำพิพากษา ส่วนฝ่ายตระกูล ณ ป้อมเพ็ชร์ ไม่ได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา แต่มีผู้รับมอบอำนาจมาศาลแทน ขณะที่ศาลอุทธรณ์อุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้ว จึงมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง ภายหลังอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว นายศักดิ์ชัย กาย อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารชื่อดัง เดินทางกลับทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีพิพาทระหว่าง ตระกูล ณ ป้อมเพ็ชร์ และนายศักดิ์ชัย กาย นั้น อย่างไรก็ดียังถูก นายธีรวัต ณ ป้อมเพชร ทายาทของนายวิวรรธน์ ณ ป้อมเพชร อดีตเอกอัครราชทูต ยื่นฟ้อง นายศักดิ์ชัย กาย ฐานเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล , นำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดี , ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 , 180 , 264 และ 268 สืบเนื่องจากทรัพย์มรดก ต่อศาลอาญาอีกสำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งศาลรับคดีไว้ในสารบบความหมายเลขดำ อ.3830/2559 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในวันที่ 15 พ.ค.2560 เวลา 09.00 น. ส่วนคดีแพ่ง ที่มีการฟ้องและต่อสู้คดีกันยาวนานถึง 9 ปีนั้น ศาลฎีกา ได้มีคำพิพากษาไปแล้วว่า ไม่น่าเชื่อว่าลายมือชื่อในพินัยกรรมเป็นของนายวิวรรธน์ ดังนั้นศาลฎีกาตัดสินให้พินัยกรรมฉบับที่ศักดิ์ชัย อ้างนั้น เป็นโมฆะ