"วีระ" ซัด คสช. ไม่จริงใจปราบโกง ไม่เร่งตรวจสอบน้องชายนายกฯ

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ม.รังสิต นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น (คปต.) กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและผลประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. .... (กฎหมายสามชั่วโคตร) ว่า ตนไม่เชื่อว่าจะปราบทุจริตได้ผลดี แต่ก็ดีกว่าไม่มี ตนเคยได้ยินนักการเมืองพูดกันว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีจำนวนน้อย ในขณะที่คดีทุจริตเป็นหมื่นๆคดี กว่าจะตัดสินก็เวลาหลายปี เห็นได้จากกรณีที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญานักการเมือง ได้สั่งยึดทรัพย์บ้านนักการเมืองคนหนึ่งมูลค่า 16 ล้านบาท แต่เขาไม่สะท้าน พวกเขาจึงกล้าเสี่ยง เพราะผลตอบแทนนั้นคุ้มค่า ซึ่งหมายความว่ามาตรการต่างๆที่อาจใช้ไม่ได้ทันที จึงไม่ใช่สูตรสำเร็จที่บอกได้ชัดว่าลดปัญหาคอรัปชั่นได้ทันที เหมือนอย่างร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ ถูกชูว่าเป็นฉบับปราบโกง แต่ขณะนี้เรื่องที่เกิดขึ้นกับบรรดาบิ๊ก คสช. อย่างพฤติการของครอบครัวน้องชายนายกฯ ที่แสดงถึงความไม่ชอบมาพากล ก็ไม่ได้มีการปฏิบัติตรวจสอบอย่างจริงจัง"พฤติการณ์เหล่านั้น ไม่ถูกต้องอยู่แล้วในข้อกฎหมาย ที่ผ่านมาผมได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ในกรณีที่พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกลาโหม บรรจุลูกชายเป็นทหาร ปรากฏว่าป.ป.ช. ตีตกเรื่องนี้ไปแล้ว ทั้งๆที่คณะตรวจสอบความจริงไม่เคยเรียกผมไต่สวน รวมถึงกรณีอุทยานราชภักดิ์ ที่ยื่นตรวจสอบไปแล้ว โดย ป.ป.ช. มีมติ 9 ต่อ 0 ว่าไม่เข้าข่ายทุจริต และระบุว่าจะส่งรายละเอียดเป็นหนังสือมาให้ผม แต่จนบัดนี้ผมก็ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว อย่างนี้แล้วจะให้ผมเชื่อมั่นได้อย่างไร เพราะคดีที่เกี่ยวข้องกับบิ๊ก คสช. ถูก ป.ป.ช. ตีตกหมด" นายวีระ กล่าวนายวีระ กล่าวอีกว่า มี ป.ป.ช. อย่างน้อย 5 คนพยายามถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อ 7 ต.ค. 51 ทั้งที่เรื่องเข้าสู่ศาลฎีกา ซึ่งจะต้องเข้าสู่กระบวนการไต่สวน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอะไรที่เกี่ยวข้องกับ คสช. จะถูกละเว้น ทั้งนี้หากยังปฏิบัติหน้าที่เช่นนี้ ป.ป.ช. ก็อาจถูกยื่นถอดถอนได้เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองกล่าวหา ป.ป.ช. ว่าเลือกปฏิบัติ นายวีระ กล่าวว่า ขนาดตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ยังรู้สึกเช่นนั้น ฝ่ายที่คุณไปแย่งอำนาจมากลับถูกไล่บี้ ในขณะเดียวกันก็นิ่งเฉยกับคนใกล้ตัว ซึ่งประชาชนคนที่มีใจเป็นธรรมเขาก็มองเรื่องนี้ออกเมื่อถามว่าการที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่าไม่รู้จะเอาผิดกับลูกชาย พล.อ.ปรีชาอย่างไรนั้น นายวีระ กล่าวว่า เป็นเรื่องไม่สมควรที่จะพูดเช่นนั้น เพราะเป็นถึงรองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ถือเป็นการชี้นำ ซึ่งที่จริงควรตอบสื่อเพียงว่าขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้หน่วยงานนั้นทำหน้าที่ไป ซึ่งการแสดงความเห็นของนายวิษณุหลายครั้งทำให้ประชาชนไม่สบายใจ และหมดความน่าเชื่อถือ ในนโยบายปราบโกงของ คสช. เอง ซึ่งการที่พล.อ.ปรีชาปฏิเสธไม่รู้เรื่องที่ลูกชายตั้งบริษัท หรืออ้างว่าลูกชายบรรลุนิติภาวะแล้วไม่เกี่ยวข้องกัน ถามกลับว่าเรื่องถ้าพ่อไม่เป็นทหารจะตั้งบริษัทในค่ายได้ไหม แล้วเด็กจบใหม่จะมีทุน 500,000 บาท เพื่อจดทะเบียนจากไหนเมื่อถามถึงกรณีที่ นายกฯพูดทีเล่นทีจริงว่าจะตรวจสอบคนที่ชอบร้องเรียนเรื่องทุจริต นายวีระ กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวขัดแย้งกับท่าทีของการปราบทุจริต ซึ่งตัวนายกฯก็เป็นถึงประธานคณะกรรมการต่อต้านทุจริต ซึ่งเป็นนโยบายหลักของ คสช. การพูดเช่นนี้ ในขณะเดียวกันขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา และรณรงค์ให้ตรวจสอบทุจริต แต่กลับมาข่มขู่ผู้ที่หวังดี ก็ทำให้คนเหล่านั้นถอย กลายเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือนโยบายปราบคอร์รัปชั่น ดังนั้นเวลาสื่อถาม ไม่ควรที่จะแสดงอารมณ์ หรือทำอะไรที่เข้าข่ายให้การช่วยเหลือฝ่ายที่ถูกตรวจสอบ