หน่วยงานที่ได้อันดับหนึ่งคือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) 96.02 คะแนน อันดับ 2.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 94.50 คะแนน อันดับ3 บริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด 91.41 คะแนน อันดับ 4.องค์การอุตสาหกรรมป่าไม่ 90.79 คะแนน 5.การนคมอุตสหากรรมแห่งประเทศไทย 90.39 คะแนน 6.การไฟฟ้านครหลวง 90.30 คะแนน 7.สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 90.23 คะแนน 8.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 89.98 คะแนน 9.โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 89.78 คะแนน 10 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 89.73 คะแนน
ส่วนสามอันดับสุดท้ายคือ อันดับ 115 องค์การสวนสัตว์ 44.09 คะแนน อันดับ 114 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร 59.54 คะแนน อันดับ 113 องค์การสวนพฤกษศาสตร์ 64.83 คะแนน
โดยการจัดอันดับสามารถดูได้ทาง https://www.nacc.go.th/download/article/article_20160912155521.pdf
ขณะนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เราไม่ได้ตกใจกับผลประเมินที่ออกมา เนื่องจากการประเมินดังกล่าวดูเรื่ององค์กรที่มีคุณธรรมและความโปร่งใสเรารู้ก่อนการประเมินอยู่แล้ว แต่เราก็ไม่ได้เตรียมการนัดแนะกับหน่วยงาและผู้เกี่ยวข้องภายในในว่าต้องเตรียมถูกประเมินอะไรบ้าง ดังนั้น เมื่อมีการประเมินจึงถือว่าวัดผลได้จริงและเป็นผลดีกับเราที่ทำรู้ตัวเองว่า ความจริงขณะนี้เราเป็นอย่างไร การประเมินดังกล่าว เพื่อให้แต่ละหน่วยงานรู้ตัวว่ามีจุดบกพร่องใดต้องแก้ไขให้ดีขึ้นในปีถัดไป เพื่อจะได้เป็นหน่วยงานที่มีมีคุณธรรม ความโปร่งใส เจตนาเป็นอย่างนั้น ถ้าทุกองค์กรพัฒนาขึ้นจากคะแนนประเมินมาตรฐานที่ 80 คะแนน และดีขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยโปร่งใสแน่
"อาจจะมีส่วนว่าคะแนนที่สะท้อนการประเมินสำนักงานป.ป.ช.อาจจะไม่โปร่งใส เป็นต้นว่าการขอทราบความคืบหน้าของคดี หรือการขอสืบค้นสำนวนคดีต่างๆ ว่าการเปิดเผยข้อมูลยังไม่ดีพอ แต่เรื่องคดีเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เปิดเผยลำบาก เนื่องจากมีข้อจำกัด ถ้าไปกระทบถึงบุคคลอื่น คนให้ข้อมูลหรือคนที่กล่าวหาจะเดือดร้อน แต่ก็จะพยายามให้มีการเปิดเผยให้มากกว่านี้" นายสรรเสริญ กล่าว