เลื่อนอ่านอุทธรณ์ "ธาริต-ชาญเชาวน์" สั่งย้ายอดีตขรก.ดีเอสไอไม่ชอบ

ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 10.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.3873/2555 ที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อายุ 62 ปี อดีต ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาฯ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นจำเลยที่1-2ในความผิดฐาน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีเมื่อวันที่ 30 มี.ค. - 8 ต.ค.55 จำเลยทั้งสองร่วมกันทำหนังสือเสนอย้าย โจทก์ จาก ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินฯ ดีเอสไอ ให้ไปมีตำแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะคดีของดีเอสไอ ซึ่งมีระดับต่ำกว่าเดิม โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยวันนี้ พ.อ.ปิยะวัฒก์ โจทก์ , นายธาริต อดีต อธิบดีดีเอสไอ จำเลยที่ 1 และนายชาญเชาว์ อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม จำเลยที่ 2 มาศาล

 แต่เมื่อถึงเวลา ศาลได้แจ้งให้จำเลยทราบว่า เมื่อเดือน พ.ค.59 นายธาริต จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำคัดค้านอุทธรณ์เพิ่มเติม ขณะที่ศาลอุทธรณ์ ยังเขียนคำพิพากษาไม่แล้วเสร็จ ศาลจึงยกเลิกนัดอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ในวันนี้ โดยให้รอจนกว่าศาลอุทธรณ์จะเขียนคำพิพากษาแล้วเสร็จ จึงจะกำหนดนัดใหม่ต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 มี.ค.56 เห็นว่า คำสั่งย้ายโจทก์ตามเหตุผลจำเลยที่ 1 นั้น คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ได้วินิจฉัยไว้ว่า เป็นการเสนอไม่ชอบ ไม่มีเหตุผลเพียงพอ และไม่ปรากฏว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทางราชการอย่างใด โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้เสนอขอให้ย้ายโจทก์ด้วยตนเอง การที่จำเลยที่ 1 เสนอขอให้ย้ายโจทก์มีมูลเหตุจากความไม่พอใจหรือขัดแย้ง จากการปฏิบัติหน้าที่ การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จึงพิพากษาให้จำคุกนายธาริต เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา 

ส่วนนายชาญชัย จำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานใดมานำสืบให้เห็นว่า มีเจตนากลั่นแกล้งหรือจงใจให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ หรือมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต เกี่ยวกับคำสั่งย้ายโจทก์อย่างไรบ้าง ขณะที่นายธาริต จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลยกฟ้อง โดย พ.อ.ปิยะวัฒน์ โจทก์ ก็ได้ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษ นายชาญเชาว์ จำเลยที่ 2 ด้วย