"บัตรทอง" ชี้ชะตาประชามติ
เหลืออีก 8 วัน แล้วก่อนถึงวันออกเสียงประชามติ 7 สิงหาคม ประเทศไทย มีคนใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทองกว่า 48 ล้านคน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ ขณะที่เนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญถูกต้ั้งข้อสังเกตุว่าเขียนเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ไม่ชัดเจน ติดตามจากรายงานชิ้นนี้
ยุทธนา เอี่ยววัฒนากุล พาแม่วัย 70 ปี มารับบริการที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ด้วยโรคประจำตัวหลายอย่าง ทั้งเบาหวาน ความดัน แรงดันในปอดสูง และหัวใจโต โดยใช้สิทธิบัตรทอง แม่ของวัฒนา เป็นอดีตแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวที่เกษียณแล้ว ไม่มีรายได้ ทำให้เมื่อเจ็บป่วย ต้องอาศัยใช้สิทธิบัตรทอง เพราะประหยัดค่าใช้จ่าย
ผู้ใช้บริการในโรงพบาบาลส่วนใหญ่ ใช้สิทธิบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ในการรักษาพยาบาล แต่ดูเหมือนว่าร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะทำประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ อาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ มาตรา 47 ระบุว่า "บุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายบัญญัติ" ได้กลายเป็นข้อสังเกตว่า ต่อจากนี้ผู้มีสิทธิได้รับบัตรทองจะมีเพียงแค่ผู้ยากไร้เท่านั้นหรือไม่
ประธาน กรธ. มีชัย ฤชุพันธุ์ บอกว่า สาเหตุที่จำกัดเฉพาะผู้ยากไร้ เพราะต้องการให้สิทธิ์นี้กับคนจนเป็นลำดับแรก ๆ และเพื่อแก้ปัญหาด้านงบประมาณ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดตัดบัตรทองออกไปจากคนไทย มิหนำซ้ำ ยังตั้งใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แม้ประธานกรธ. จะยืนยันว่าไม่ได้ตัดสิทธบัตรทองของประชาชนออกไป แต่ความไม่ชัดเจนในข้อความดังกล่าว ก็ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ต้องใช้สิทธินี้ เกิดความไม่มั่นใจ
ในประเทศไทย จำนวนผู้ใช้สิทธิบัตรทองมีถึง 48 ล้านคน นี่จึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่จะชี้ชะตาอนาคตประชามติ