มติเอกฉันท์! "ศานิตย์" นั่งเก้าอี้ "ผบช.น." เต็มตัว

โดยผบ.ตร. ให้เหตุผลในที่ประชุมว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ ผ่านการประเมิน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์สามารถดำเนินการตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ พร้อมยืนยันการตั้ง พล.ต.ท.ศานิตย์ ไม่มีแรงบีบหรือกดดันจากฝ่ายการเมือง ส่วนจะมีการโยกย้ายตำแหน่งอื่นๆพร้อมผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในวาระประจำปี 2559 ซึ่งจะมีการโยกย้ายในอีก 2 เดือนหรือไม่นั้น เป็นดุลยพินิจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่จะพิจารณา

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า สำหรับที่ประชุม ก.ตร. ยังมีมติเห็นชอบให้ ย้าย พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค(ผบช.ภ.) 9 เป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แทนตำแหน่ง พล.ต.ท.ศานิตย์ และมีคำสั่งย้ายสลับระหว่าง พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร กับ พล.ต.ต.อิทธิ พลอิทธิสารรณขัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครนายก และ พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา สลับกับ พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นผลมาจากคำสั่ง คสช.ตามมาตรา44 แม้ผลการสอบสวนกรณีปัญหาการค้ามนุษย์ จะไม่พบความผิดก็ตาม

นอกจากนี้ที่ประชุม ก.ตร.ยังมีมติเห็นชอบในหลักการ ยุบ ยกเลิก ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.และที่ปรึกษา สบ.10 เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. ยศ พล.ต.อ.จำนวน 8 ตำแหน่ง ยุบ เลิก ตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร.ผบช. และเทียบเท่า ผบช.ยศ พล.ต.ท.จำนวน 11 ตำแหน่ง และยกเลิกตำแหน่งรอง ผบช. ยศ พล.ต.ต.จำนวน 3 ตำแหน่ง

ส่วนกรณีเงินค่าตอบแทนสำหรับผู้ปฎิบัติงานในตำแหน่งพนักงานสอบสวน หลังจากกระทรวงการคลังอนุมัติแล้ว ก็ได้แจ้งในที่ประชุม ก.ตร.ให้รับทราบ หลังจากนี้ก็จะดำเนินการตามระเบียบ ยืนยันจะได้รับเงินย้อนหลังทุกตำแหน่ง