svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

คุก! 27 ปี 6 เดือน "เอนก สิงขุนทด" แนวร่วม นปช. บึ้มพรรคภูมิใจไทย ปี 53

22 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ฎีกาแก้โทษหนัก จำคุก 27 ปี 6 เดือน ปรับ 50 บาท "เอนก สิงขุนทด" ตาบอด 2 ข้าง จากเดิมอุทธรณ์โดนคุก 5 ปี ทำให้เกิดระเบิดรถเข็นขายเงาะซุกระเบิด แนวร่วม นปช. บึ้มพรรคภูมิใจไทย ปี 53 เจ้าตัว ยอมรับผิด ทำไปเพราะถูกชวน ยกเคสตัวอย่างเตือนสติเอี่ยววุ่นวายการเมือง

ที่ห้องพิจารณา 708 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 22 ก.ค.59 เวลา 09.30 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำ อ.2930/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเอนก สิงขุนทด จำเลยที่ 1 ซึ่งตาซ้ายบอดสนิท ตาขวาเห็นเลือนราง เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดหน้าพรรคภูมิใจไทย จำเลยที่ 1 , นายเดชพล พุทธจง จำเลยที่ 2 , นายกำพล คำคง จำเลยที่ 3 , นายกอบชัย หรืออ้าย บุญปลอด จำเลยที่ 4 , นางวริศรียา หรืออ้อ บุญสม จำเลยที่ 5 และนายสุริยาหรืออ้วน ภูมิวงษ์ จำเลยที่ 6 ในความผิดฐานร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ วางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือน ทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์ฯ  พาอาวุธไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควรฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218,221, 222,371และร่วมกันทำวัตถุระเบิด และมีวัตถุระเบิดที่ออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธ(วัตถุระเบิด)ไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุสมควร ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4 , 38 ,74  อย่างไรก็ดี ในชั้นพิจารณา นายแอนก จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 2- 6ให้การปฏิเสธ ศาลจึงได้แยกสำนวนพิจารณา  โดยฟ้องโจทก์ บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างต้นเดือน มิ.ย.-22 มิ.ย. 53 ต่อเนื่องกัน นายเดชพล พุทธจง , นายกำพล คำคง , นายกอบชัย หรืออ้าย บุญปลอด , นางวริศรียา หรืออ้อ บุญสม และนายสุริยาหรืออ้วน ภูมิวงษ์ จำเลยที่ 2-6 ซึ่งแยกพิจารณาคดี ร่วมกันผลิตหรือทำวัตถุระเบิด และร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่ทำขึ้นโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และจำเลยกับพวก ยังร่วมกันทำให้เกิดการระเบิดขึ้น โดยนายนายอเนก จำเลยที่ 1 เป็นผู้เข็นรถเข็นผลไม้ (เงาะ) ที่ซุกซ่อนระเบิดไว้ เข็นผ่านไปทางด้านหลังของอาคารที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ตั้งอยู่ใกล้ซอยพหลโยธิน 43 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ก่อนเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ผนังด้านหลังอาคารพรรคภูมิใจไทย แตกเสียหาย 

คุก! 27 ปี 6 เดือน  "เอนก สิงขุนทด" แนวร่วม นปช. 
บึ้มพรรคภูมิใจไทย ปี 53


ขณะเดียวกันแรงระเบิดยังทำให้นายอเนก ตาบอดทั้งสองข้าง นอกจากนี้เพิงโรงเรือนร้านค้าขายอาหารตามสั่งของนายแถม ตรุพิมาย ถูกแรงระเบิดเสียหายพังทั้งหลัง ค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 บาท รถยนต์ ทะเบียน ธต 7963 กทม. ของ ว่าที่ ร.ต.ภูมิรัตน์ นาคอุดม ได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 40,000 บาท
 ซึ่งศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 เม.ย.55 เห็นว่า นายเอนก จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนถึงพฤติการณ์และเหตุจูงใจในการกระทำดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับพยานหลักฐาน จึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 กับพวกร่วมกันทำระเบิดเพื่อให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สินและสถานที่ประชุม 
ซึ่งมีลักษณะเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ ที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 221,222 ประกอบมาตรา 218 , 371 และ พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ จึงให้จำคุก 2 กระทงๆ ละ 10 ปี ฐานมีระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และปรับ 100 บาท ฐานพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ โดยให้จำคุกตลอดชีวิต ฐานทำระเบิดให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินฯ และสถานที่ประชุม ซึ่งเป็นโทษหนักสุด ตาม มาตรา 222 และ 218 แต่จำเลยที่ 1ให้การรับสารภาพ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ให้จำคุกรวมทั้งสิ้น 35 ปี และปรับ 50 บาท  
ต่อมาจำเลย ยื่นอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.56 เห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมา รับฟังได้ปราศจากข้อสงสัย เชื่อว่าจำเลยกระทำผิดฐานร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สถานที่ประชุมตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา อุทธรณ์ของจำเลยในส่วนนี้ที่ว่าไม่ได้กระทำผิดจึงฟังไม่ขึ้น ส่วนร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น แม้จำเลยจะทำและมีวัตถุระเบิด 2 ลูก ซึ่งวัตถุระเบิดอีก 1 ลูกไปตรวจยึดได้ที่ริมถนนรามอินทรา 81 แต่การกระทำของจำเลยนั้นมีเจตนามุ่งการกระทำการในคราวเดียว

คุก! 27 ปี 6 เดือน  "เอนก สิงขุนทด" แนวร่วม นปช. 
บึ้มพรรคภูมิใจไทย ปี 53


 ความผิดของจำเลยฐานร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นจึงเป็นความผิดกรรมเดียว ที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบานั้นฟังขึ้น ที่ศาลชั้นต้นจำคุก 2 กระทงๆ ละ 5 ปี รวมจำคุก 10 ปี ฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดฯ และจำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สถานที่ประชุมนั้น หนักเกินไปเพราะก็ไม่ปรากฏว่าสถานที่ประชุมพรรคภูมิใจไทยคิดความเสียหายเป็นเงินเท่าใด เพียงแต่ปรากฏว่าเพิงร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงพรรค เสียหายเป็นเงิน 50,000 บาทและรถยนต์เสียหาย 40,000 บาท 
ดังนั้นจึงสมควรลงโทษจำเลยที่ 1 ให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุก 5 ปี ฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ เพียงกรรมเดียว , ฐานทำให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินฯ และสถานที่ประชุม เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษหนักสุดตาม ม.222 และ 218 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุก 5 ปี รวมจำเลยทั้งสิ้น 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกทั้งสิ้น 5 ปี และปรับ 50 บาทฐานพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะฯ  ขณะที่อัยการโจทก์ ยื่นฎีกา โดยวันนี้ นายอเนก จำเลย ซึ่งได้รับการปล่อยตัว ภายหลังศาลอุทธรณ์ พิพากษาโทษ 5 ปี เดินทางมาศาลพร้อมกับญาติ  ทั้งนี้ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า ที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดมานั้น เหมาะสมกับพฤติการณ์แล้ว แต่พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะความผิดฐานทำให้เกิดระเบิดเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินฯ และสถานที่ประชุม ตาม ม.222 และ 218 นั้น ให้จำคุกตลอดชีวิต รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 25 ปี แต่เมื่อรวมโทษอื่นฐานมีวัตถุระเบิดและพกพาไปในที่สาธารณะแล้วให้จำคุกจำเลยทั้งสิ้น 27 ปี 6 เดือน และปรับ 50 บาท

คุก! 27 ปี 6 เดือน  "เอนก สิงขุนทด" แนวร่วม นปช. 
บึ้มพรรคภูมิใจไทย ปี 53

  ภายหลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกาที่ถือเป็นที่สุดแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัว นายเอนก จำเลย ซึ่งตาบอดทั้ง 2 ข้าง ไปยังเรือนจำเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาต่อไป โดยก่อนหน้านี้นายเอนก เคยถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีมาแล้ว 5 ปี 2วัน  ขณะที่นายเอนก กล่าวว่า รู้สึกเสียใจและยอมรับในความผิดกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ที่ทำไปเพราะถูกชักชวนและความหลงผิดซึ่งกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่ถ้าย้อนกลับไปได้ก็คงจะไม่ก่อเหตุดังกล่าว  "หลังจากนี้ก็จะต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตในเรือนจำ อยากฝากเตือนสติคนที่เกี่ยวข้องกับความวุ่นวายทางการเมืองให้ดูเป็นตัวอย่าง" นายอเนก กล่าวและว่า สำหรับอาการบาดเจ็บที่ดวงตานั้น ก็ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่รัฐ แพทย์และพยาบาลที่ให้การรักษาเป็นอย่างดี  ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับจำเลยร่วมในคดีนี้อีก 5 คน คือ นายเดชพล พุทธจง , นายกำพล คำคง , นายกอบชัย หรืออ้าย บุญปลอด , นางวริศรียา หรืออ้อ บุญสม และนายสุริยาหรืออ้วน ภูมิวงษ์ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กลุ่มที่ว่าจ้างนายเอนก ที่แยกพิจารณาสำนวนเป็นคดีหมายเลขดำ อ.1007/2556 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธสู้คดีนั้น คดีอยู่ระหว่างฎีกา

คุก! 27 ปี 6 เดือน  "เอนก สิงขุนทด" แนวร่วม นปช. 
บึ้มพรรคภูมิใจไทย ปี 53

  โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก จำเลยที่ 1- 3 คนละ 6 ปี 8 เดือนและปรับ 66.66 บาท ส่วนจำเลยที่ 5 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน และให้ยกฟ้องนางวริศรียา หรืออ้อ จำเลยที่ 4
แต่ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ก.ย.58 แก้เป็นว่าให้จำคุกนายเดชพล , นายกำพล , นายกอบชัย จำเลยที่ 1 -3 คนละ 4 ปี และปรับคนละ 66.66 บาท ส่วนนางวริศรียา จำเลยที่ 4 ที่ถูกยกฟ้องนั้น ก็ให้จำคุก 4 ปี และปรับคนละ 66.66 บาท  ส่วนนายสุริยา จำเลยที่ 5 จำคุก 2 ปี 8 เดือน แต่ปัจจุบันนายสุริยา จำเลยที่ 5 ถูกศาลออกหมายจับ และสั่งปรับนายประกัน 500,000 บาท เพราะไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา เชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี

คุก! 27 ปี 6 เดือน  "เอนก สิงขุนทด" แนวร่วม นปช. 
บึ้มพรรคภูมิใจไทย ปี 53

logoline